พระนครศรีอยุธยา - เมืองกรุงเก่าเกิดเหตุระทึกอีก เมื่อหัวรถจักรรถไฟ กทม.-เด่นชัย ไฟลุกไหม้กลางทางที่อำเภอท่าเรือ เจ้าหน้าที่เร่งอพยพผู้โดยสารกว่า 300 ชีวิต หนีออกจากโบกี้อลหม่าน
มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.วันนี้ (27 มี.ค.) ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้หัวรถจักรขบวนกรุงเทพฯ-เด่นชัย ขบวนที่ 111 บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟปากแรด หมู่ 3 ต.ท่าเจ้าสนุก อ.ท่าเรือ จ. พระนครศรีอยุธยา โดยเพลิงลุกไหม้ที่หัวรถจักรขณะที่กำลังวิ่งอยู่ โดยคาดว่าอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้
หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการอพยพผู้โดยสารซึ่งมีกว่า 300 คน ออกจากโบกี้รถอย่างโกลาหล เพราะด้านล่างเป็นทุ่งนาซึ่งจะต้องเดินเท้ามาขึ้นรถบัสของทหารที่มารอรับไปต่อรถไฟอีกขบวนที่สถานีท่าเรือต่อไป โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
หลังเกิดเหตุ ร.ต.ท.กัมปนาท ศรีพระลาน พนักงานสอบสวน สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยรถดับเพลิง เจ้าหนาที่อาสาสมัคร สมาคมอยุธยารวมใจ พบเพลิงกำลังลุกไหม้ที่ห้องเครื่องของหัวรถจักรดีเซล ของขบวนรถไฟ แต่รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าที่เกิดเหตุได้เนื่องจากเป็นทางแคบ เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้านำถังเคมีเข้าไปใช้ในการควบคุมเพลิง พร้อมประสานรถโบกี้บรรทุกน้ำของรถไฟนำน้ำออกมาฉีดควบคุมเพลิงเอา โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเพลิงจึงสงบ
จากการสอบสวนนายสรพงษ์ แป้งเมือง ผู้ช่วยสารวัตรแขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ที่ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่หัวรถจักร ทราบว่าสาเหตุเกิดจากเครื่องเกิดความร้อนจัดทำให้เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการลากหัวจักรไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีรถไฟท่าเรือเพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง และได้ประสานนำหัวจักรคันใหม่มาลากขบวนนี้เดินทางไป อ.เด่นชัย ต่อ ส่วนผู้โดยสารที่ตื่นตระหนกลงจากขบวนรถไฟได้นำรถไปส่งที่สถานีรถไฟใกล้เคียงเพื่อเดินทางต่อไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมาในพื้นที่หมู่ 7 ต.กระจิว อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เกิดเหตุรถด่วนพิเศษขบวนที่ 69 สายกรุงเทพฯ-หนองคาย ถูกรถด่วนพิเศษขบวนที่ 107 สาย กรุงเทพฯ-เด่นชัย พุ่งชนท้าย จนหัวรถจักร และตู้โดยสารของรถด่วนพิเศษสายกรุงเทพฯ-หนองคาย ตกจากราง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 52 ราย อาการสาหัส 3 ราย
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิศวกรกองช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่รถไฟกองช่างกล ชุดกู้ภัยม้าเหล็ก พร้อมอุปกรณ์เครื่องจักรหนัก และรถเครนขนาดใหญ่เข้าทำการกู้ซากขบวนรถโบกี้รถไฟที่เกิดพุ่งชนกันให้พ้นออกจากรางรถไฟอยู่ คาดว่าจะสามารถเปิดเดินรถไฟได้ตามปกติในช่วงบ่ายนี้