กาชาดบุรีรัมย์รุดช่วยสองผัวเมียพิการยากจน ไฟไหม้บ้านวอดไร้ที่อาศัย-วอนช่วยเหลือ

บุรีรัมย์ - เหล่ากาชาดจังหวัดพร้อมนายอำเภอคูเมืองได้นำเงินและถุงยังชีพไปมอบช่วยเหลือเบื้องต้นครอบครัวสองสามีภรรยาพิการฐานะยากจนถูกไฟไหม้บ้านวอดเสียหายทั้งหลัง ต้องไร้ที่อยู่อาศัย ซ้ำเครื่องมือทำมาหากินที่เปิดรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าหาเลี้ยงชีพก็ถูกไฟเผาวอด แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ปภ.วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

วันนี้ (25 มี.ค.) นางฉวีวรรณ ศรีเมือง รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนางสาวเมตตา สินยบุตร นายอำเภอคูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้เป็นตัวแทนนำเงินช่วยเหลือจากทางจังหวัด และถุงยังชีพไปมอบแก่ นางยิ้ม เทพเดช อายุ 42 ปี และนายพล สอนฤทธิ์ อายุ 38 ปี สองสามีภรรยาที่พิการ อยู่บ้านเลขที่ 210 บ้านจิกน้อย ม.4 ต.คูเมือง อ.คูเมือง หลังถูกไฟไหม้บ้านซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เสียหายทั้งหลัง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา

อีกทั้งทรัพย์สิน เช่น รถไถนา รถจักรยานยนต์ รวมถึงอุปกรณ์ในการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากินในการเปิดรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าในหมู่บ้าน ก็ถูกไฟเผาวอดเสียหายทั้งหมดด้วย จากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ทำให้ทั้งสองสามีภรรยาที่มีสภาพร่างกายพิการ ต้องไร้ที่อยู่อาศัย ขณะนี้ทั้งสองต้องไปขอพักอาศัยอยู่บ้านญาติก่อนชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม เหตุเพลิงไหม้บ้านในครั้งนี้ไม่เข้าระเบียบหลักเกณฑ์การช่วยเหลือของทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงไม่ได้รับการช่วยเหลือ มีเพียงทางเหล่ากาชาด และอำเภอมาช่วยเหลือในเบื้องต้นเท่านั้น จึงได้วอนให้ผู้ใจบุญหรือผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือ เพราะทั้งสองมีสภาพร่างกายพิการไม่สามารถทำงานหนักได้

โดยนางยิ้มมีเพียงรายได้จากการรับเลี้ยงเด็กวันละ 150 บาท กับเบี้ยคนพิการเดือนละ 700 บาท ขณะที่สามีก็มีรายได้จากการรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ได้ถูกไฟไหม้ไปหมดแล้ว ส่วนเบี้ยยังชีพผู้พิการยังไม่ได้รับ เนื่องจาก อบต.บอกว่ายังไม่เข้าหลักเกณฑ์

หากผู้ใจบุญหรือผู้มีจิตศรัทธาต้องการช่วยเหลือสองสามีภรรยาดังกล่าว สามารถติดต่อผ่านทางอำเภอคูเมือง หรือบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี น.ส.ยิ้ม เทพเดช ธนาคารกรุงไทย สาขาคูเมือง บัญชีออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 288-0-24042-5

ทางด้าน นางฉวีวรรณ ศรีเมือง รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การนำเงินและถุงยังชีพมามอบแก่สองสามีภรรยาที่พิการและถูกไฟไหม้บ้านเสียหายทั้งหลังในครั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นไปก่อน หลังจากนั้นจะได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และผู้มีจิตศรัทธา มาให้ความช่วยเหลือสองสามีภรรยาในอีกทางหนึ่งด้วย