ชัยนาท - สสจ.ชัยนาท ร่วมกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีชัยนาท สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชัยนาท และชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพชัยนาท เตรียมจัดกิจกรรมปั่นจักรยานเดือนที่ 4 ตามโครงการชัยนาทเมืองจักรยาน 12 เดือนแห่งการปั่น ปั่นเพิ่มบุญ เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 2 เมษายน และวันที่ 11-12 เมษายน 2558
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (23 มี.ค.) ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นายองอาจ หลำอุบล ประธานชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพชัยนาท และนายพูลสิทธิ์ ศีติสาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท ร่วมกันแถลงข่าวการจัดกิจกรรม ปั่นเพิ่มบุญ เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 2 เมษายน และวันที่ 11-12 เมษายน 2558
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า จังหวัดชัยนาท ร่วมกับชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพจังหวัดชัยนาท ได้จัดทำโครงการชัยนาท เมืองจักรยาน 12 เดือน แห่งการปั่น Chainat the City of Bike และสำหรับในเดือนเมษายน 2558 ได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท ร่วมกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีชัยนาท สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชัยนาท และชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพจังหวัดชัยนาท เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมปั่นจักรยาน ปั่นเพิ่มบุญ
โดยในวันที่ 2 เมษายน 2558 เป็นเดือนแห่งสิริมงคล เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ และกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้จังหวัดชัยนาท เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมปวงประชาร่วมใจ ปั่นสองล้อสู่สุขภาพดี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 2 เมษายน 2558
ส่วนการจัดงานในวันที่ 11-12 เมษายน 2558 ซึ่งอยู่ในช่วงของเทศกาลวันสงกรานต์ จะมีประชาชนที่ทำงานต่างถิ่นเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนาบ้านเกิด เล่นสงกรานต์อนุรักษ์ประเพณีไทย เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การสร้างกระแสการใช้รถจักรยานในการสัญจรแทนรถยนต์มากขึ้น และเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวจังหวัดชัยนาทเพิ่มขึ้น โดยเชื่อมโยงกิจกรรมการขับขี่จักรยานกับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชัยนาท เพื่อสร้างความรักความอบอุ่น ความสามัคคี ในครอบครัว ชุมชน โดยใช้การขับขี่จักรยานเป็นแกนเชื่อมความสามัคคี และส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายให้มีสุขภาพอนามัยที่แข็งแรง ลดการเจ็บป่วยของโรคไม่ติดเชื้อ
นายองอาจ หลำอุบล ประธานชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพชัยนาท กล่าวว่า เส้นทางการปั่นจักรยาน ในวันที่ 11 เมษายน 2558 จะเป็นการปั่น Rolling ไปตามเส้นทางที่ตั้งวัดสำคัญในอำเภอเมืองชัยนาท ได้แก่ จุดที่ 1 วัดป่าเจ้าพระยา (โคกขาม) ตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมือง กราบนมัสการหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปองค์ใหญ่เก่าแก่มีความศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ประชาชนให้ความเคารพนับถือมากว่า 100 ปี และให้อาหารปลาในเขตอภัยทาน
จุดที่ 2 วัดพระบรมธาตุวรวิหาร ตำบลชัยนาท อำเภอเมือง วัดพระอารามหลวงชั้นโท เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น กราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ที่บรรจุอยู่ในเจดีย์พระบรมธาตุรูปแบบสถาปัตยกรรมอู่ทอง เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในจังหวัดชัยนาท และไหว้พระประจำวันเกิด ทำบุญผ้าป่าลอยฟ้า
วันที่ 12 เมษายน 2558 เป็นการแข่งขันจักรยานประเภท A ระยะทาง 40 กิโลเมตร ประเภท B ระยะทาง 15 กิโลเมตร โดยสามารถสมัครเข้าร่วมแข่งขันได้ที่สำนักงานจังหวัดชัยนาท ชมรมปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพจังหวัดชัยนาท ค่าสมัคร 300 บาท ได้รับเสื้อ 1 ตัว รางวัลสำหรับผู้สมัครประเภท A ที่เข้าเส้นชัย อันดับ 1-5 จะได้รับถ้วยรางวัลพร้อมเหรียญ และผู้เข้าเส้นชัยทุกคนตามเวลากำหนดจะได้รับเหรียญ ด้านความปลอดภัย ตลอดเส้นทางการปั่นจักรยานในช่วงที่จัดงานปั่นจักรยาน “ปั่นเพิ่มบุญ” เป็นงานช่วง 7 วันอันตรายของช่วงสงกรานต์ ขอรับรองว่าจังหวัดชัยนาทได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเส้นทางการปั่นจักรยานจะได้รับการดูแลความปลอดภัยเป็นกรณีพิเศษ
นายพูลสิทธิ์ ศีติสาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า การปั่นจักรยานครั้งนี้จัดขึ้นในแนวคิดที่ว่า “ปั่นเพิ่มบุญ สงกรานต์ย้อนยุค” กิจกรรมในงานประกอบด้วย การทำบุญสร้างกุศล จัดตั้งกองผ้าป่าสมทบทุนจัดซื้อเครื่องฟอกไตให้แก่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร มีการสรงน้ำพระ อนุรักษ์ประเพณีไทย สนุกสนานกับการละเล่นประเพณีสงกรานต์ รำกลองยาว รำวงย้อนยุค เส้นทางการปั่นจักรยาน ชมดอกทานตะวันที่เขื่อนเจ้าพระยา ปล่อยปลาไหว้พระหลวงพ่อใหญ่ และทำบุญใส่บาตรประจำวันเกิดทำบุญผ้าป่าลอยฟ้าที่วัดพระบรมธาตุวรวิหาร
โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท ได้กล่าวถึงการปั่นจักรยานแล้วดีอย่างไรกระแสการใส่ใจสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้นเป็นเหตุสำคัญทำให้การปั่นจักรยานจากที่เป็นการออกกำลังกายวิธีหนึ่งกลับได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะในสังคมเมืองในปัจจุบัน ถ้าว่ากันตามการจัดอันดับของการออกกำลังกายในแง่มุม และประโยชน์การปั่นจักรยานยังจัดอยู่ใน 3 อันดับต้นของการออกกำลังกายที่ให้ประโยชน์สูงสุดอีกด้วย
โดยอีก 2 ประเภท คือ การวิ่ง และการว่ายน้ำ การออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบหัวใจ และไหลเวียนเลือด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบหายใจ เพิ่มประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อ จะได้ผลดีต่อกล้ามเนื้อในส่วนล่างของร่างกาย จากการศึกษาพบว่า ให้ผลในเรื่องการเพิ่มความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อทุกมัด แต่มัดที่ได้รับผลมากที่สุด จะเป็นกลุ่มของกล้ามเนื้อต้นขาในส่วนหน้าขา
นอกจากนั้น จะมีผลกับกล้ามเนื้อก้นย้อย กล้ามเนื้อน่องส่วนบน และรวมทั้งกล้ามเนื้อมัดอื่นๆด้วย ผู้ที่ปั่นจักรยานอย่างถูกวิธีจะมีกล้ามเนื้อที่ใหญ่ก็เฉพาะต้นขาเท่านั้น แต่ส่วนน่องจะเรียว ไม่ได้โป่งเหมือนสามล้อถีบแต่อย่างใด กล้ามเนื้อก้นย้อย กล้ามเนื้อสะโพกจะแน่นกระชับขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพของระบบรักษาสมดุลของร่างกาย