ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.ภาค 3 บุกรวบพระเขมร 11 รูป มั่วสุมในบ้านร้าง ออกเรี่ยไรเงินสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้าน เผยสะกดรอยตามตั้งแต่เช้ามืด พบกระจายกันขึ้นรถโดยสารเดินสายออกบิณฑบาตหาเงินอำเภอต่างๆ ทั่วโคราช อึ้งเทข้าวอาหารสิ่งของที่ชาวบ้านใส่บาตรทิ้งข้างทาง เก็บแต่เงิน สร้างความสลดใจแก่ชาวพุทธ
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.สุรพล แก้วข่าว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปกรณ์ เสริมสุวรรณ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 (ผบก.สส.ตร.ภ.3) พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ รอง ผบก.สส.ภ. 3 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม พระเขมร จำนวน 11 รูป พร้อมหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ประเทศกัมพูชาปลอม ที่มีรอยตราประทับของด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว รวมทั้งเครื่องใช้ของสงฆ์หลายรายการ เช่น บาตร จีวร อุปกรณ์อื่นๆ และเงินธนบัตรใบละ 20 บาทอีกจำนวนมาก
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีพระสงฆ์พฤติกรรมน่าสงสัย อาศัยอยู่ในบ้านร้างไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ในป่ากระถินข้างทางห่างจากถนนมิตรภาพ-หนองคาย ประมาณ 500 เมตร ในเขต ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมออกเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน โดยมีพฤติกรรมไม่เหมือนพระสงฆ์ทั่วไป จึงวางแผนเข้าจับกุม
โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสะกดรอยตามตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เริ่มจากพบกลุ่มพระเขมรทั้งหมดออกจากบ้านร้าง ริมป่ากระถินข้าง ถ.มิตรภาพ มานั่งรถตุ๊กตุ๊กไปที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครราชสีมาแห่งที่ 2 ก่อนแยกย้ายกันขึ้นรถโดยสารประจำทางไปลงยังอำเภอต่างๆ ของ จ.นครราชสีมา และออกเดินบิณฑบาต เรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แยกย้ายกันสะกดรอยตาม
จากการตรวจสอบพฤติกรรมระหว่างบิณฑบาต พบว่าพระทั้งหมดมีอาการไม่สำรวม โดยจะเดินเท้าไปเรื่อย ไม่เลือกเวลา เมื่อเห็นคนอยู่ในบ้านจะยืนรอจนกว่ามีคนนำสิ่งของมาถวายจึงจะเดินทางต่อไป นอกจากนี้ยังเห็นว่ามีพระบางรูปนำข้าว อาหาร และสิ่งของที่ชาวบ้านใส่บาตรนำไปเททิ้งข้างทาง และเดินออกบิณฑบาตต่อเพราะต้องการเงินมากกว่าสิ่งของ แตกต่างกับพระสงฆ์ทั่วไป เจ้าหน้าที่จึงสะกดรอยตามจนพระเขมรทั้งหมดเดินทางกลับเข้าที่พัก จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุม
ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจสอบพบว่าที่พักดังกล่าวต้องเดินเท้าผ่านป่าต้นกระถินเข้าไปกว่า 500 เมตร ลักษณะเป็นบ้านร้างสภาพทรุดโทรม ไม่มีน้ำประปาใช้ มีเพียงสระน้ำสภาพเหม็นเน่าอยู่ข้างบ้านที่ใช้เป็นที่อาบน้ำ ซึ่งในระหว่างเข้าตรวจสอบ มีชายแต่งกายคล้ายพระธุดงค์ อยู่จำนวน 11 รูป บริเวณที่พัก พบข้าวสาร อาหารแห้ง และขวดน้ำเปล่า รวมทั้งขวดเหล้าขาว กระจายอยู่ทั่วบริเวณเป็นจำนวนมาก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พบว่าพระทั้งหมดมีหนังสือประจำตัวพระสงฆ์ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ ส่วนหนังสือเดินทางประเทศกัมพูชานั้นทั้งหมดเป็นเอกสารปลอม และจากการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่าผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวถึงแม้เป็นพระสงฆ์ หากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถือว่าลาขาดจากการเป็นพระ เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาให้เจ้าอาวาสวัดสระแก้วทำพิธีลาสิกขาก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีเพิ่มเติม
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า ทั้งหมดได้หลบหนีเข้ามาทางด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนมาที่ จ.นครราชสีมา เพื่อหาเงินในรูปแบบของพระที่มีประชาชนเคารพนับถือ โดยมีรายได้เฉลี่ยวันละ 300-600 บาท
ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ใช้ความศรัทธาของคนไทยเป็นช่องทางหาเงิน โดยมีคนที่เข้ามาทำก่อนแนะนำจึงลักลอบเข้าประเทศไทย โดยจ้างทำหนังสือเดินทางปลอมในราคา 1,500 บาท และลักลอบเข้าประเทศไทยทางด้าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อได้เงินมากพอแล้วจะเดินทางกลับบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาหลบหนีเข้าเมือง ออกเรี่ยไรหาผลประโยชน์ ใช้ตราประทับพาสปอร์ตปลอม ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป