พนักงาน อบต.เมืองช้างบุกร้อง “ผบช.ภ.3” หวั่นถูกล้มคดี “นายก อบต.” งาบหัวคิวเงินโบนัส

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-พนักงาน อบต.เมืองช้างบุกร้อง “ผบช.ภ.3” ขอความเป็นธรรม หวั่นถูกล้มคดี “นายก อบต.แกใหญ่” เรียกรับส่วนแบ่งเงินโบนัสพนักงาน 44 ราย จนถูกบุกจับกุมคาห้องทำงาน เผยหลังเกิดเหตุผู้ร้องเดือดร้อน พยานถูกกลั่นแกล้งสารพัด ขณะผู้ว่าฯ สุรินทร์และนายอำเภอไม่สนใจ ปล่อยให้นายก อบต.ทำหน้าที่ต่อ สุดทนเข้าร้อง ป.ป.ช.เอาผิดทั้งผู้ว่าฯ และนายอำเภอฐานเพิกเฉยด้วย

วันนี้ (18 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา น.ส.ปัทมาภรณ์ เนตรวิจิตร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/1 ม.10 ต.แกใหญ่ และนางยุพา ดวงตา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 ม.13 ต.เทนมีย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ทั้ง 2 คนเป็นพนักงานราชการองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แกใหญ่ ได้เดินทางมายื่นหนังสือเปิดผนึกเพื่อขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เรื่อง การขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนคดี นายมนตรี บุญสุยา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แกใหญ่ เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินสำหรับตนเองในตำแหน่งโดยมิชอบ

ผบช.ภ.3 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วีรพงษ์ ทองวีรประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) ลงมารับหนังสือ พร้อมรับปากจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

น.ส.ปัทมาภรณ์ เนตรวิจิตร พนักงาน อบต.แกใหญ่ เปิดเผยว่า ตน และ น.ส.ยุพาได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นายมนตรี บุญสุยา นายก อบต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ กรณีเรียกรับส่วนแบ่งจากเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (โบนัส) จากเจ้าหน้าที่และพนักงานจ้างจำนวน 44 ราย รวมเป็นเงินกว่า 4.1 แสนบาท โดยได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ ไปร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ภูวดล สุธรรมแปง พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองสุรินทร์ จนนำไปสู่การจับกุมนายมนตรีได้ภายในห้องทำงานพร้อมของกลางทั้งเงินสด บัญชีรายชื่อพนักงาน เช็คเงินสด และหนังสือฎีกาเบิกเงินรายจ่ายและเอกสารประกอบต่างๆ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2557

หลังเกิดเหตุตน และ น.ส.ยุพา ต้องย้ายมาช่วยราชการชั่วคราวที่สำนักงานท้องถิ่นอำเภอเมืองสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 2557 ขณะที่นายมนตรียังคงมีอำนาจในการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายก อบต.แกใหญ่ต่อไป ทำให้พยานได้รับความเดือดร้อนจากการถูกผู้บริหารกลั่นแกล้ง โดยได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์แล้ว นอกจากนี้ ตนและพวกได้ร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.จังหวัดสุรินทร์ กรณีที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่นายอำเภอแต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า ส่อประวิงเวลา แม้จะมีหนังสือเร่งรัดให้ดำเนินการจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทยแล้วก็ตาม ที่สำคัญ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมาทาง ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดกรณีของนายมนตรีเรียบร้อยแล้ว

แต่ในส่วนของคดีอาญา นายมนตรีได้ร้องขอความเป็นธรรมมายังตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อขอให้มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนจาก พ.ต.อ.ภูวดล สุธรรมแปง เป็นพนักงานสอบสวนรายใหม่ อ้างว่าเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับตัวนายมนตรี ทำให้ตนและพวกเกิดความคับข้องใจต่อสิ่งที่นายมนตรีร้องขอ เพราะเหมือนนายมนตรี พยายามวิ่งเต้นโดยใช้เส้นสาย ซึ่งมีพฤติการณ์ส่อให้เห็นถึงเจตนาในการล้มคดีดังกล่าวให้ได้

วันนี้พวกตนจึงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อขอให้ พ.ต.อ.ภูวดลเป็นเจ้าของคดีต่อเพื่อทำคดีให้กระจ่าง เนื่องจากเป็นพนักงานสอบสวนที่ทำคดีดังกล่าวตั้งแต่ต้น รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างดีและเป็นผู้เข้าจับกุมนายมนตรีในวันเกิดเหตุด้วย ซึ่งหลังจากนี้พวกตนจะได้เดินทางต่อไปยัง ป.ป.ช.เพื่อร้องทุกข์กรณีที่นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์นิ่งเฉยไม่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการต่อผู้กระทำผิด น.ส.ปัทมพรกล่าว

อนึ่ง คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2557 ที่ผ่านมา โดย พ.ต.อ.ภูวดล สุธรรมแปง พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองสุรินทร์ ได้เข้าจับกุม นายมนตรี บุญสุยา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แกใหญ่ ในข้อหาฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินสำหรับตนเองในตำแหน่งโดยมิชอบ โดยสามารถจับกุม นายมนตรี บุญสุยา นายก อบต.แกใหญ่ ได้ภายในห้องทำงานของนายก อบต.แกใหญ่ พร้อมของกลางเป็นเงินสดค่าหัวคิว เป็นเงินจำนวน 35,234 บาท และพบหลักฐานอื่นๆ ตามที่กล่าวข้างต้น เบื้องต้นนายก อบต.แกใหญ่ให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัวไป