ผบช.ภ.3 สั่งเด้งฟ้าผ่า! “ผบก.โคราช-ผกก.เมือง” สังเวยพิษตั้งด่านทำ ปชช.เดือดร้อน

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พล.ต.ท.พิสัณห์” ผบช.ภ.3 สั่งเด้งฟ้าผ่า “พล.ต.ต.ฐากูร” ผบก.โคราช พร้อม ผกก.เมืองนครราชสีมา ไปช่วยราชการตำรวจภูธรภาค 3 โดยไม่มีกำหนด สังเวยพิษไม่สนองนโยบายตั้งด่านความมั่นคง แต่กลับมุ่งเน้นตั้งด่านจับผิดจราจร ซ้ำดำเนินการไม่ถูกต้องทำประชาชนเดือดร้อน เผยสัปดาห์ที่ผ่านมา ผกก.สภ.ปักธงชัยถูกเด้งเช่นกัน

เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (11 มี.ค.) พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้ลงนามหนังสือตำรวจภูธรภาค 3 ด่วนที่สุดที่ 0018.112/1515 ลงวันที่ 11 มีนาคม 2558 ให้ พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา และ พ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 (ศปก.ภ.3) โดยขาดจากตำแหน่ง และหน้าที่ทางสังกัดเดิม ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2558 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ด้วยมีเหตุผล และความจำเป็นเพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ

พร้อมได้ลงนามคำสั่งตำรวจภูธรภาค 3 ที่ 426/2558 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน โดยให้ พ.ต.อ.วณัฐ อรรถกวิน รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และ พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา อีกหน้าที่หนึ่งโดยไม่ขาดจากตำแหน่ง และหน้าที่ทางสังกัดเดิม

พล.ต.ท.พิสันห์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนนี้ตนได้มีคำสั่งให้ตำรวจทุกพื้นที่ปรับแผนในการตั้งด่านตรวจ โดยให้เน้นด่านตรวจด้านความมั่นคงเป็นหลัก และการตั้งด่านต้องมีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรรับผิดชอบทุกแห่ง แต่จากการที่ตนลงพื้นที่ตรวจด่านในพื้นที่ ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ด้วยตัวเองเมื่อคืนนี้ (10 มี.ค.) พบว่ามีการตั้งด่านตรวจจราจร ไม่มีชื่อนายตำรวจที่รับผิดชอบ และไม่มีเบอร์โทรศัพท์สามารถติดต่อได้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ให้ไว้

โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุระเบิดที่ศาลอาญา รัชดา กรุงเทพฯ ตนได้สั่งการให้เน้นการตั้งด่านความมั่นคงปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่าจะลุกลามมายังต่างจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดใหญ่อย่าง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นเขตที่มีกลุ่มคู่ขัดแย้งทางการเมืองอยู่ แต่กลับไปตั้งด่านจราจรเป็นหลัก เน้นการตรวจจับด้านจราจรล้วนๆ ซึ่งผิดเจตนารมณ์ และหลักเกณฑ์ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งในความเป็นจริงด่านความมั่นคงก็สามารถตรวจเรื่องการจราจรได้แต่กลับไม่ทำ

“ฉะนั้นจึงต้องเรียกมาปรับทัศนคติเพราะทำไม่ถูกต้อง ไปแปรเปลี่ยนเจตนารมณ์ที่ให้ไว้ ส่วนจะนานแค่ไหนนั้นต้องดูแนวความคิดเห็นอีกครั้งหนึ่ง ทราบว่าทั้ง 2 คนจะชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งคนเราคิดไม่เหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องเงิน บางคนมีเงินมากก็ไม่คิดจะเอาเพิ่ม แต่บางคนก็คิดที่อยากจะได้มากๆ ฉะนั้นแต่ละคนจึงคิดไม่เหมือนกัน” พล.ต.ท.พิสัณห์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผบช.ภ.3 ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.กัมปนาท ฐาตุจิรางค์กูล ผกก.สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มาช่วยราชการที่ ศปก.ภ.3 โดยไม่มีกำหนดเช่นกัน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย เนื่องจาก ผบช.ภ.3 เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพักแล้วไม่อยู่ เมื่อตรวจสอบย้อนหลังพบว่าไม่ค่อยอยู่โรงพัก และจากการสืบสวนทางลับทราบว่ามักเดินทางไปทำกิจกรรมอยู่ที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเป็นประจำ แม้แต่แขกคนสำคัญจากประเทศเพื่อนบ้านเดินทางเข้าพื้นที่ก็ไม่อยู่ต้อนรับ ซึ่งหากผลการสอบสวนพบว่ามีความผิดจริงก็จะถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อไป