ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - หอการค้าโคราชโร่มอบดอกไม้ให้กำลังใจ “ผบช.ภ.3” ที่เห็นความเดือดร้อนของ ปชช.จากการตั้งด่านตรวจ และแก้ปัญหาให้ ด้าน “ผบช.ภ.3” ยันให้ความเป็นธรรม ไม่รังแก 2 นายตำรวจโคราชถูกเด้งเซ่นด่าน พร้อมแจ้ง ปชช.ที่ถูกใบสั่งให้นำมาแจ้งเหตุผลความจำเป็นเดือดร้อนที่ สภ.เมืองโคราช เพื่อไม่ต้องจ่ายค่าปรับ เผยจัดโครงการ “ตรวจก่อนขับ กลับบ้านปลอดภัย จากใจ ตร.ภาค 3”
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ห้องทำงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ชั้น 2 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฎ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะนักธุรกิจ ได้เข้ามอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจ พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ที่มองเห็นความเดือดร้อนของประชาชน และลงมาแก้ไขปัญหาให้
โดยเฉพาะผลกระทบจากการตั้งด่านตรวจจราจรอย่างไม่ถูกต้อง หรือมีการตั้งด่านตรวจมากเกินความจำเป็น ทำให้ประชาชน และภาคธุรกิจได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลายรายไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ และกิจการร้านอาหาร สถานบันเทิง ได้รับผลกระทบมีลูกค้ามาใช้บริการน้อยไม่สามารถดำเนินกิจการอยู่ได้
ด้าน พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า การที่ตนลงนามคำสั่งย้ายด่วนให้ พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา และ พ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 (ศปก.ภ.3) เนื่องจากพบว่า มีการตั้งด่านตรวจที่ไม่ถูกต้อง ไม่สนองตอบนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ที่ให้มีการมุ่งเน้นตั้งด่านตรวจด้านความมั่นคง เน้นสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และตำรวจต้องเป็นที่รักของประชาชน แต่กลับไปตั้งด่านตรวจจราจรเพื่อหวังให้ได้เงินค่าปรับนั้นผิดเจตนารมณ์ และขัดต่อคำสั่งที่ตนได้กำชับมอบโนบายไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด ขณะนี้นายตำรวจทั้ง 2 นาย อยู่ระหว่างการทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง และเหตุผลต่อกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหญ่โต หากฟังเหตุผล และคณะกรรมการพิจารณา แล้วไม่มีอะไร หรือชี้แจงได้สมเหตุสมผล ไม่มีความผิดก็สามารถกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิมได้
ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมต่อนายตำรวจทั้ง 2 นาย ไม่ใช่การกลั่นแกล้งแต่อย่างใด เพราะตำรวจทั้ง 2 นาย เองก็เป็นตำรวจคนสนิทของตน ซึ่งเมื่อคนสนิทไม่ปฏิบัติตามคำสั่งก็ต้องย้ายมาปรับทัศนคติใหม่ หรือทำความเข้าใจกันใหม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมอบโนบายไปแล้วว่า หากไม่ทำตามคำสั่งก็ต้องถูกย้าย
ส่วนประชาชนผู้เดือดร้อนที่ได้รับใบสั่งไปแล้ว เบื้องต้น ให้นำใบสั่งดังกล่าวไปทำเรื่องแจ้งเหตุผลความจำเป็น หรือความเดือดร้อนไม่มีเงินค่าปรับได้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งไม่จำเป็นต้องเสียค่าปรับ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะกล่าวตักเตือน ส่วนผู้ที่กระทำผิดซ้ำบ่อยอาจมีการให้บำเพ็ญประโยชน์ด้านอื่นๆ เพิ่มเติมแทนการเสียค่าปรับ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
พล.ต.ท.พิสัณห์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทางฝ่ายอำนวยการ 3 กองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 3 ได้จัดโครงการ “ตรวจก่อนขับ กลับบ้านปลอดภัย จากใจของตำรวจภูธรภาค 3” โดยจะเริ่มโครงการนำร่องที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปให้บริการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ให้ประชาชนที่ขับรถเข้าไปใช้บริการในสถานีขนส่ง รวมทั้งผู้ขับรถให้บริการต่างๆ ในสถานีขนส่ง และผู้มาเที่ยวบริเวณหน้าสถานบริการโดยสมัครใจก่อนขับรถ ซึ่งหากพบมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่จะแนะนำไม่ให้ขับรถ และ ดำเนินการเรียกรถรับจ้างสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ สามล้อเครื่อง รถจักรยานยนต์รับจ้าง หรืออื่นๆ มารับไปส่งให้ถึงที่พัก
โดยประสานขอความร่วมมือกับผู้ขับขี่รถรับจ้างให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว พร้อมประสานเจ้าของผู้ประกอบการสถานบริการจัดเตรียมที่จอดรถของนักท่องเที่ยวที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดูแลความปลอดภัยในสถานที่จอดรถให้ พร้อมจัดทำบัญชีผู้สมัครใจตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ โดยระบุชื่อ ที่อยู่ วันเวลา สถานที่ตรวจ และให้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน