xs
xsm
sm
md
lg

สมศ.ระบุสถานศึกษาไม่ตื่นตัวการประเมิน สะท้อนการศึกษาไทยไม่พัฒนา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สมศ.แจงภาพรวมสถานศึกษาผ่านการประเมินระดับดีมากทั้ง 3 ครั้ง มีเพียง 1% จากทั่วประเทศที่มีสถาบันการศึกษา 3 หมื่นกว่าแห่ง ระบุสถานศึกษาส่วนใหญ่ไม่ตื่นตัวกับการประเมินสะท้อนเหตุใดการศึกษาไทยถึงไม่พัฒนา

วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ห้องโสตทัศนศึกษา โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เผยผลการประเมินคุณภาพการศึกษาในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา โดยศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. กล่าวว่า ภาพรวมของการศึกษาไทยจากการประเมิน 3 ครั้งที่ผ่านมา ทั้งในระดับประถม-มัธยมมีสถานศึกษาทั่วประเทศทั้งหมด 32,099 แห่ง

พบว่ามีจำนวนสถานศึกษาที่ได้รับผลประเมินดีมากทั้ง 3 ครั้ง จำนวน 354 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 1.10 โดยแบ่งเป็นสถานศึกษาขนาดเล็กได้รับผลการประเมินดีมากทั้ง 3 ครั้ง 127 แห่งจากจำนวน 22,985 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 0.55 และสถานศึกษาขนาดใหญ่-ใหญ่พิเศษได้รับผลประเมินดีมากทั้ง 3 ครั้ง จำนวน 148 แห่ง จากทั้งหมด 2,072 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 7.14

“ซึ่งผลการประเมินสะท้อนให้เห็นว่าสถานศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่ตื่นตัวต่อการประเมินของ สมศ.ที่สะท้อนคำถามที่ว่าเหตุใดการศึกษาไทยจึงยังไม่พัฒนา ดังนั้น สถานศึกษาจึงควรนำผลการประเมินไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการศึกษาของแต่ละสถาบันเพื่อการพัฒนามาตรฐานการศึกษาไทย ทั้งนี้ โรงเรียนขนาดเล็กหรือใหญ่สามารถมีคุณภาพเทียบเท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับความใส่ใจของบุคลากร และวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร แม้ว่าจะเล็กหรือใหญ่หากให้ความสำคัญต่อการประเมินและนำไปปรับใช้ก็สามารถพัฒนาโรงเรียน และสร้างอนาคตของชาติที่มีคุณภาพได้เช่นกัน” ศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์กล่าว

นางผ่องพรรณ สายทอง รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กล่าวว่า โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยได้รับผลการประเมินจาก สมศ.ดีมากทั้ง 3 ครั้ง ทางโรงเรียนได้ยึดหลักจากตัวชี้วัดของ สมศ. ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของโรงเรียน ที่มุ่งเน้นเรื่องการส่งเสริมพัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพเป็นคนดีของสังคม มีการบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ โดยให้สังคม ชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของโรงเรียน และทางโรงเรียนได้ดำเนินงานตามเอกลักษณ์ คือ ส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการ ในปัจจุบันได้พัฒนานักเรียนให้สอดคล้องเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนดังวิสัยทัศน์ที่ว่า โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยเป็นสถานศึกษาที่จัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีศักยภาพเป็นพลเมืองโลก

ด้านนายปัญญา สกุลปั้นทรัพย์ รองผู้อำนวยการ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย กล่าวว่า โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยวางแผนพัฒนาโรงเรียนโดยอ้างอิงจากผลการประเมิน สมศ.มาเป็นแนวทางในการกำหนดแผนยุทธศาสตร์การบริหารและทิศทางขับเคลื่อนโรงเรียน

โดยคณะครู อาจารย์ จะมีการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและศักยภาพเพื่อนำมาพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนอันเป็นประโยชน์สูงสุดให้แก่นักเรียน ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินของ สมศ. และวิสัยทัศน์ของโรงเรียนที่ถือเป็นสถานศึกษาแห่งคุณธรรมและคุณภาพระดับสากล

“โดยโรงเรียนมุ่งเน้นการจัดการศึกษาบนรากฐานของคริสต์จริยธรรม และพัฒนาของสมองเพื่อพัฒนาผู้เรียนทุกด้านให้เต็มตามศักยภาพแต่ละบุคคล ด้วยการบริหารจัดการที่ยึดโรงเรียนเป็นฐาน ดังนั้นจึงไม่ถือว่าการประเมินของ สมศ.เป็นการเพิ่มภาระให้กับทางโรงเรียนแต่อย่างใด เพราะเป็นสิ่งที่โรงเรียนและครูควรกระทำอยู่แล้ว” นายปัญญากล่าวทิ้งท้าย

สำหรับการประเมินคุณภาพการศึกษานั้น สมศ.ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีการประเมินอย่างน้อย 1 ครั้ง ในทุกๆ 5 ปี โดยให้สถานศึกษารวบรวมเอกสาร และหลักฐานที่เป็นฐานข้อมูลให้ผู้ประเมินใช้ในการตรวจสอบตามสภาพความเป็นจริงของสถานศึกษา และสามารถประเมินออกมาได้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด โดยมีเกณฑ์ชี้วัด เพื่อเป็นการวัดคุณภาพมาตรฐาน 12 ข้อดังนี้

1. ผู้เรียนมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี 2. ผู้เรียนมีคุณธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ 3. ผู้เรียนมีความใฝ่รู้ และเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง 4. ผู้เรียนคิดเป็น ทำเป็น 5. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของผู้เรียน 6. ประสิทธิผลของการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

7. ประสิทธิภาพของผู้บริหารในการจัดการและพัฒนาสถานศึกษา 8. พัฒนาการของการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาและต้นสังกัด 9. ผลการพัฒนาให้บรรลุตามปรัชญา วิสัยทัศน์ และวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสถานศึกษา 10. ผลการพัฒนาตามจุดเน้นและจุดเด่นที่ส่งผลสะท้อนเป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา 11. ผลการดำเนินงานโครงการพิเศษเพื่อส่งเสริมบทบาทของสถานศึกษา 12. ผลการส่งเสริมพัฒนาสถานศึกษาเพื่อยกระดับมาตรฐาน รักษามาตรฐานและพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ

ซึ่งผลการประเมินสะท้อนให้เห็นว่าสถานศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่ตื่นตัวต่อการประเมินของ สมศ.ที่สะท้อนคำถามที่ว่าเหตุใดการศึกษาไทยจึงยังไม่พัฒนา ดังนั้น สถานศึกษาจึงควรนำผลการประเมินไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการศึกษาของแต่ละสถาบันเพื่อการพัฒนามาตรฐานการศึกษาไทย

ทั้งนี้ โรงเรียนขนาดเล็กหรือใหญ่สามารถมีคุณภาพเทียบเท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับความใส่ใจของบุคลากร และวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร แม้ว่าจะเล็กหรือใหญ่หากให้ความสำคัญต่อการประเมินและนำไปปรับใช้ก็สามารถพัฒนาโรงเรียน และสร้างอนาคตของชาติที่มีคุณภาพได้เช่นกัน

ศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน) หรือ สมศ.
นางผ่องพรรณ สายทอง รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
นายปัญญา สกุลปั้นทรัพย์ รองผู้อำนวยการ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย



กำลังโหลดความคิดเห็น