อุบลราชธานี - ทหารกองกำลังรักษาความสงบอุบลราชธานี เข้าตรวจสอบการขุดดินจากโครงการขุดลอกแก้มลิงแล้วนำดินไปถมที่ทำการเทศบาลเมืองแจระแม อำเภอเมืองอุบลฯ ผู้รับเหมายันเป็นไปตามสัญญาของโครงการที่กรมทรัพยากรน้ำ ว่าจ้าง แต่ผู้ร้องเรียนอ้างอาจถมดินเกินไปให้เอกชนที่อยู่ติดกัน ขอให้ทหารตรวจสอบความชัดเจนก่อน
พ.ท.สุรกิจ กาฬเนตร ผบ.กรมทหารราบที่ 6 พัน 1 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 จ.อุบลราชธานี ได้นำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วกองกำลังรักษาความสงบจังหวัด เข้าตรวจสอบรถบรรทุกดิน 10 ล้อ ของห้างหุ้นส่วนจำกัดเลิศพัฒนาศรีสะเกษ ที่ได้รับเหมาโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำแจระแม ซึ่งเป็นพื้นที่แก้มลิงบุ่งเชียงติก ตั้งอยู่ ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี หลังมีผู้ร้องเรียนผู้รับเหมาขนดินจากการขุดลอกหนองน้ำไปถมที่โดยไม่ชอบ
จากการเข้าตรวจสอบได้รับการชี้แจงจาก นายสุรเชษฐ์ ศรีเล็ก เลขาโครงการที่ได้รับเหมาขุดลอกดินบุ่งเชียงติก พื้นที่กว่า 420 ไร่ เมื่อปี 2556 โดยมีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ว่าจ้างในราคากว่า 59 ล้านบาท และได้สิ้นสุดสัญญาในเดือนกันยายน 2557
แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นที่รองรับน้ำจากลำน้ำมูล ทำให้การขุดลอกยังไม่เสร็จเรียบร้อย และได้ขอขยายโครงการขุดลอกไปถึงปี 2559
สำหรับดินที่นำมาถมบริเวณจุดทิ้งดินริมถนนแจ้งสนิท บ้านแก ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่งทหารเข้าตรวจสอบเป็นที่ดินของเทศบาลเมืองแจระแม และได้มีหนังสือขอดินไว้ต่อทางกรมทรัพยากรน้ำ ตั้งแต่เริ่มทำโครงการเมื่อ 2 ปีก่อน เพื่อทำการปรับปรุงยกระดับพื้นที่ จำนวน 20 ไร่ นำมาทำเป็นที่ทำการแห่งใหม่ของเทศบาล ซึ่งเป็นไปตามสัญญาการว่าจ้างให้นำดินที่ขุดขึ้นมาให้ส่วนราชการนำไปใช้ประโยชน์ได้ รวมทั้งที่สาธารณประโยชน์อื่นๆ ในตำบลแจระแม
การนำดินมาถมได้ทำติดต่อมาเป็นปีที่ 2 เนื่องจากบริเวณที่ถมดินต้องใช้ดินมากถึงกว่า 250,000 ลูกบาศก์เมตร และจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่รองรับน้ำของลำห้วยแจระแม ถึงฤดูน้ำหลากต้องหยุดทำการถม ไม่สามารถทำต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปี ไม่ใช่เพิ่งนำดินมาถมตามที่มีผู้ร้องเรียน
ต่อมา น.ส.ปลิดา สิทธิธรรม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแจระแม ได้มาชี้แจงต่อฝ่ายทหารว่าที่ดินที่ผู้รับเหมาโครงการนำดินมาถมเป็นที่ของเทศบาลจริง แต่ผู้ร้องต้องการให้เจ้าพนักงานที่ดินเข้าตรวจสอบแนวเขตที่ดินอีกครั้ง โดยอ้างว่าอาจมีการถมดินเกินที่ของเทศบาลออกไปยังที่เอกชนที่อยู่ใกล้เคียง จึงให้ผู้รับเหมายุติการนำดินมาถมไว้ก่อน
พร้อมทั้งให้นำรถบรรทุก 10 ล้อ ที่ใช้บรรทุกดิน จำนวน 2 คัน ไปเก็บรักษาไว้ในค่ายทหาร ส่วนรถแบ็กโฮให้จอดไว้บริเวณที่ทำโครงการ เพื่อรอให้ฝ่ายทหารตรวจสอบเอกสารการว่าจ้าง และประสานสอบถามไปยังกรมทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้ได้ความชัดเจนของโครงการก่อน ซึ่งผู้รับเหมาโครงการยินดีปฏิบัติตาม จนกว่าจะได้ข้อยุติตามที่มีผู้ร้องต่อไป