xs
xsm
sm
md
lg

พบเชียงดาวเผาป่าสนุกมือดันเชียงใหม่ครองแชมป์Hotspot-ค่าฝุ่นพุ่งจ่อเกินมาตรฐานซ้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เผยสถิติเชียงใหม่ครองแชมป์การเผาและเกิดไฟป่า จุดความร้อนสะสมรวมแล้วกว่า 400 จุด โดยมีอำเภอแม่แจ่มนำโด่ง ด้านอำเภอเชียงดาวพบชาวบ้านลอบเผาป่าสนุกมือหวังปรับพื้นที่เตรียมปลูกข้าวโพด ขณะที่ตัวเมืองเชียงใหม่หมอกควันคลุมทึบ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกลับมาพุ่งจ่อเกินค่ามาตรฐานซ้ำเต็มแก่

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ยังคงมีการเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากสถิติถือว่ามีความรุนแรงมากที่สุดของภาคเหนือ โดยสรุปข้อมูลล่าสุดของวันที่ 6 มี.ค.58 ที่ผ่านมา พบว่าจังหวัดเชียงใหม่เกิดไฟป่าและการเผาจนสามารถวัดจุดความร้อน(Hotspot) ได้มากถึง 86 จุด กระจายตามอำเภอต่างๆ

อำเภอแจ่ม พบว่ามีการเผาและไฟป่ามากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 21 จุด รองลงมาเป็นอำเภอเชียงดาว ขณะที่ข้อมูลสถิติตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.58 เป็นต้นมา จังหวัดเชียงใหม่ จุดความร้อน(Hotspot) สะสมรวม 410 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 179 จุด ป่าสงวน 187 จุด และพื้นที่การเกษตร 44 จุด โดยพื้นที่ปัญหาที่เกิดไฟป่า และการเผามากที่สุดคือที่อำเภอแม่แจ่ม เชียงดาว และแม่แตง

สำหรับพื้นที่อำเภอเชียงดาวนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงนี้ยังเกิดเหตุไฟป่าและการเผาเป็นประจำ โดยจากการสำรวจเส้นทางจากตัวอำเภอเชียงดาวไปตำบลทุ่งข้าวพวง ตำบลเมืองนะ ตำบลปิงโค้ง และตำบลเมืองคอง ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าเขา พบว่าตลอดสองข้างทางเกิดไฟป่าเป็นบริเวณกว้าง บางพื้นที่ถูกไฟป่าเผาผลาญไปแล้วหลายร้อยไร่ และตลอดสองข้างทางยังเกิดไฟป่าต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดหมอกควันไฟเต็มทั้งพื้นที่ โดยไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟป่า ส่วนหนึ่งมาจากการเกิดไฟป่าในหลายจุดพร้อมกัน จนกำลังเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดับไฟป่าได้ทั่งถึง โดยเฉพาะตำบลที่อยู่ห่างไกล

สำหรับสาเหตุของไฟไหม้ป่าสองข้างทางดังกล่าวนี้ เบื้องต้นคาดว่ามาจากกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ที่มีการลักลอบเผาพื้นที่ป่า และพื้นที่การเกษตรที่ตั้งอยู่ในเขตป่า เพื่อเร่งที่จะปรับพื้นที่เตรียมปลูกพืชไร่ โดยเฉพาะข้าวโพดที่มีทั้งนายทุน และเอกชนเข้าไปส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกเพื่อป้อนให้กับโรงงานจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาวบ้านเร่งเผาป่าปรับพื้นที่การเกษตรเพื่อที่จะปลูกข้างโพดในช่วงของเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้

ขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ พบว่ามลพิษอากาศเริ่มกลับมามีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นอีกครั้ง และใกล้เคียงกับการที่จะสูงเกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร โดยค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น.วันนี้ ที่สถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย และสถานีศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ที่วัดค่าได้ 115 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 111 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ โดยสภาพตัวเมืองเชียงใหม่วันนี้พบว่ามีหมอกควันปกคลุมหนาทึบเกือบทั้งวัน

กำลังโหลดความคิดเห็น