ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คุณป้าพิการชาวบ้านอำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น ร้องสื่อช่วย หลังประสบอุบัติเหตุถูกรถหกล้อข้ามเลนทับขาขาดต้องอยู่ตัวคนเดียวนานร่วม 8 ปี ทั้งหลานเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แต่คู่กรณีคนขับหกล้อปัดรับผิดชอบ อ้างไม่ผิด ไม่ชดใช้ค่าเสียหาย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ใจบุญเข้าช่วยเหลือเพราะทางบ้านมีฐานะยากจน
วันนี้ (3 มี.ค. 58) นางโบตาล พร้อมจิต อายุ 58 ปี ชาวบ้านตำบลบ้านหัน อำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น เข้าขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนให้ช่วยเหลือน้องสาวที่ป่วยพิการขาขาดจากอุบัติเหตุรถบรรทุกหกล้อเสียหลักข้ามฝั่งถนนมาทับขา แต่คู่กรณีอ้างว่าไม่ผิด ปฏิเสธการช่วยเหลือใดๆ ทั้งข่มขู่ว่าหากอยากให้ช่วยให้ไปฟ้องร้องคดีเอาเอง ซึ่งผู้ป่วยฐานะยากจน ต้องใช้ชีวิตช่วยเหลือตัวเองอยู่บ้านเพียงลำพัง
โดยอุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2550 เกิดอุบัติเหตุถูกรถหกล้อ เลขทะเบียน 18-955 ของนายบรรจง เหลาสวัสดิ์ คู่กรณี เกิดเหตุล้อยางแตกพุ่งข้ามเลนปะทะกับรถจักรยานยนต์ขณะขี่รถกลับบ้านที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เป็นเหตุให้นายบุญมี เหนขุดทด วัย 19 ปี ผู้เป็นหลาน ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ถูกรถบรรทุกทับร่างเสียชีวิตคาที่ ส่วนน้องสาวคือนางบานเย็น พุทธโฆษ์ อายุ 55 ปี ถูกรถทับขาขาด ที่สำคัญหลังประสบเหตุไม่เคยได้รับเงินเยียวยาจากคู่กรณีแม้แต่บาทเดียว
ทั้งนี้ สภาพของบ้านเลขที่ 64 หมู่ 1 ตำบลบ้านหัน อำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของนางบานเย็น พุทธโฆษ์ น้องสาวที่ประสบอุบัติเหตุ สภาพตัวบ้านเป็นบ้านไม้เก่าสองชั้นหลังคามุงด้วยสังกะสีเก่า โดยพบนางบานเย็นกำลังนอนพักผ่อนอยู่ในบ้าน ขาข้างหนึ่งสวมใส่ขาเทียม
นางบานเย็นเล่าทั้งน้ำตาว่า ขอฝากสื่อมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ ขอความเป็นธรรมจากกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นด้วย เนื่องจากที่ผ่านมากว่า 8 ปี ตนต้องกลายเป็นคนพิการขาขาด เป็นผู้ทุพพลภาพ ประกอบอาชีพไม่ได้ทำให้ขาดรายได้ ส่วนพี่สาวที่รับเลี้ยงดูก็มีฐานะยากจนต้องออกหางานรับจ้างทุกอย่างเพื่อหาเงินมาประทังชีวิต ส่วนตนนั้นสามารถทำงานบ้านได้เพียงเล็กน้อย และพอมีกับข้าวบางมื้อจากเพื่อนบ้านนำมาแบ่งให้กิน
“8 ปีที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการเยียวยาจากคู่กรณี แม้แต่ทนายก็หลอกให้ป้าถอนฟ้อง จึงอยากให้หน่วยงานยุติธรรมออกมาช่วยเหลือป้าด้วย ป้าอยากได้รับความเป็นธรรมบ้าง ไปศาลเพื่อต่อสู้คดีก็ไม่มีเงิน พี่สาวก็รับจ้างหาเงินให้ป้ามาตลอด ต้องอดทนรับจ้างอะไรก็ทำ ส่วนแม่ของคนตายก็อดๆ อยากๆ อยากให้เขามารับผิดชอบบ้าง ทำผิดแล้วแต่ไม่เคยมาดูแลเลย ตำรวจก็ไม่เห็นใจให้ความเป็นธรรมเลย” นางบานเย็นกล่าว
ขณะที่นางจำนงศ์ เหนขุดทด วัย 52 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำนาและฐานะยากจน มีลูกทั้งหมด 3 คน นายบุญมี ผู้ตายเป็นลูกคนที่สาม ขณะมีชีวิตอยู่ลูกชายเป็นเด็กดี กตัญญู ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ทำงานส่งเงินให้แม่เสมอ หลังบวชทดแทนบุญคุณจึงแต่งงานได้เพียง 9 วันก็ต้องมาจบชีวิตลง หัวอกคนเป็นแม่มองว่าลูกไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือและขอความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย แม้จะผ่านมานานแล้วก็ตาม และฝากคู่กรณีออกมาแสดงรับผิดชอบบ้าง ไม่ใช่พูดปัดความรับผิดชอบ
ด้านนางโบตาลกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเป็นพี่สาวของผู้พิการ ช่วยเหลือน้องสาวมาโดยตลอด ไปขึ้นศาลแต่ไม่ประสบผลสำเร็จสักครั้ง การไปขึ้นศาลฎีกาครั้งสุดท้ายกับทนายที่รู้จักกันก็ไม่เรียกร้องให้คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหายให้ ทั้งยังถูกทนายหลอกน้องสาวให้ถอนฟ้อง โดยทนายอ้างว่าหากถอนฟ้องศาลจะมีเงินให้ 8,000 บาท ถ้าไม่ถอนฟ้องจะมีความผิดฟ้องศาลซ้ำ จึงถอนฟ้องไป เนื่องจากไม่มีเงินให้ทนายว่าความต่อ
กระทั่งตัดสินใจไปยื่นอุทธรณ์จ้างทนายคนใหม่ ต่อมาทนายคนใหม่กลับไม่ส่งสำนวนขึ้นศาลให้ อ้างว่าลืมไว้ที่กรุงเทพฯ ทำให้ภาพถ่ายหลักฐานหายไปกว่า 30 ภาพ และต้องรวบรวมสำนวนใหม่ หลักฐานภาพถ่ายเหลือเพียง 3-4 ภาพเท่านั้น หลังจากนี้จะเดินหน้าสู้ต่อ โดยจะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความในพระราชูปถัมภ์เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป