ศอ.บต.มอบเตียงผู้ป่วยให้ รพ.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

ยะลา - ศอ.บต.มอบเตียงแก่ผู้ป่วยนอนติดเตียง พร้อมมอบน้ำซัมซัม และสายสิญจน์ให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับขวัญเด็กทารกแรกคลอด

วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานการประชุมผู้บริหารทางการแพทย์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้บริหารทางการแพทย์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ทั้งนี้ ได้มีการมอบเตียงแก่ผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 3 ราย ซึ่งได้แก่ นางกีเย๊าะ อามะ นายไสว ดวงแก้ว และ น.ส.นูรูลฮดา เง๊าะยีเละ อีกด้วย

นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า โอกาสนี้เป็นโอกาสที่สำคัญซึ่งเป็นเรื่องดีๆ ที่จะเกิดขึ้น ในเรื่องของสุขภาพอนามัย เรื่องแรกคือ มีการรับขวัญเด็กแรกเกิด และการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยประเภทคนไข้ติดเตียง เป็นการเพิ่มมิติดูแลสุขภาพ และดูแลจิตใจโดยคนไข้ติดเตียงเหล่านี้ ซึ่งจะได้รับการช่วยเหลือดูแลรักษาตามสภาพอาการ แต่การนอนติดเตียงทำให้การรองรับผู้ป่วยที่เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือผู้ป่วยที่จะต้องดูรักษานอนพักที่โรงพยาบาลซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนเตียง ถ้าเราได้นำคนไข้ติดเตียงเหล่านี้ไปอยู่ที่บ้าน โดยมีหมอประจำครอบครัว หมอประจำบ้าน บรรดาอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่สามารถแนะนำได้

เพราะผู้ป่วยเมื่อได้กลับมาไปรักษาตัวที่บ้าน ก็จะได้มีโอกาสได้เห็นลูกหลานมาเยี่ยมทำให้สุขภาพจิตดีตามไปด้วย จึงได้เกิดโครงการมอบเตียงแก่โรงพยาบาล เพื่อนำมาใช้ในพื้นที่ซึ่งเริ่มต้นที่อำเภอรามัน เป็นการบูรณาการการดำเนินงานจากทุกภาคส่วน โดยใช้เตียงพยาบาลที่นำมาซ่อมบำรุง และบางส่วนที่มีคนมาบริจาค มีเบาะลมสำหรับกรณีการแก้ปัญหาแผลกดทับ ปัญหาของผู้ป่วยติดเตียงที่พบบ่อยคือ การเกิดแผลกดทับ หากดูแลไม่ดีอาจส่งผลให้ติดเชื้อ และรุนแรงจนยากจะรักษา และเสียชีวิตในที่สุด การใช้ที่นอนลมเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดและป้องกันแผลกดทับแต่เนื่องจากราคาที่สูง จึงมีผู้คิดค้นการทำที่นอนลมที่มีราคาไม่สูงมากนัก

นายภาณุ อุทัยรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการรับขวัญเด็กแรกคลอด ซึ่งมาจากความเชื่อของคนโดยถือปฏิบัติตามวิธีการตามหลักศาสนา บุคลากร ศอ.บต. ซึ่งเป็นผู้แสวงบุญที่ได้ไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบียได้นำน้ำซัมซัม ซึ่งเป็นน้ำแร่จากบ่อน้ำในกรุงมักกะฮ กลับมาโดยมอบให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเด็กทารกที่เพิ่งคลอดนอกจากจะต้องอาซานให้เด็กแรกเกิดทางหูข้างขวาแล้ว ถ้ามีน้ำซัมซัมไปแตะริมฝีปากให้แก่เด็กแรกเกิด จะมีความเชื่อว่าเมื่อเด็กโตขึ้นจะมีสุขภาพแข็งแรง เลี้ยงดูง่าย โตเร็ว จึงเป็นโอกาสดีที่ได้มาสนับสนุนในส่วนนี้ และนอกจากนี้ ได้มีการมอบสายสิญจน์เพื่อผูกข้อมือให้แก่เด็กแรกเกิดสำหรับผู้นับถือศาสนาพุทธ เพื่อรับขวัญ และเพื่อความเป็นสิริมงคล ให้ทารกปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

ซึ่งทั้ง 2 กิจกรรมนี้ได้มีการมอบผ่านไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ในเรื่องการตายของทารกแรกเกิดในพื้นที่ค่อนข้างสูงซึ่งเกิดจากการไม่มีการฝากครรภ์ หรือไม่ได้รับการดูแลในช่วงตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่จะต้องรณรงค์ กิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้จะเป็นการจูงใจอย่างหนึ่งในการสร้างความเป็นมงคลในการรับขวัญเด็กแรกคลอด จึงถือโอกาสนี้มอบน้ำซัมซัม และสายสิญจน์ให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระชนมายุครบ 60 พรรษา ในด้านงานสาธารณสุขอนามัยซึ่งเป็นงานที่พระองค์ท่านให้ความสนใจเป็นพิเศษจึงได้จัดงานที่สนับสนุนเกี่ยวกับคนพิการ ซึ่งแม้จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นคนพิการจะได้รับเงินดูแลเข้าถึงบริการของรัฐ แต่ยังมีคนพิการอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการดูแล และเข้าถึงอย่างเต็มที่ จึงได้กำหนดให้วันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ 2558 เป็นวันรณรงค์ในการที่จะให้บัณฑิตอาสาร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ไปสำรวจจำนวนผู้พิการที่ตกค้างที่ยังไม่ได้รับการดูแล หรือที่ยังไม่มีบัตรคนพิการ

โดยมีการบริการพิเศษ และแยกประเภทผู้พิการ เช่น ถ้าเป็นผู้พิการขาจะต้องได้รับการทำขาเทียม หรือผู้มีขาเทียมที่เสื่อมสภาพสามารถทำใหม่ได้ ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบด้านสวัสดิการต่างๆ ของผู้พิการ โดยผู้จดทะเบียนผู้ตามที่กฎหมายกำหนดสามารถรับสิทธิประโยชน์ของผู้พิการในด้านต่างๆ ได้ เช่น ด้านการแพทย์ ด้านการศึกษา การฝึกอาชีพ และสวัสดิการสังคมสำหรับคนพิการเรื่องเงินยังชีพ ในเรื่องของทันตสาธารณสุข หรือสุขภาพปาก ฟัน โดยแนวทางการจัดกิจกรรมจะรณรงค์ให้บริการทันตสุขภาพ และทันตสุขศึกษาโดยดำเนินการนำร่องโรงเรียนในพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 46 โรงเรียน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ในเบื้องต้น มุ่งเน้นการดำเนินการที่ให้ภาพชัดเจน เพื่อให้ผู้รับบริการได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และไม่เกิดความหวาดกลัวต่อการรับบริการ จึงนำร่องด้วยกิจกรรมขูดหินปูน โดยให้ผู้รับบริการได้เห็นสภาพของฟันที่มีหินปูนเกาะก่อนการขูดกับภายหลังจากการรับบริการขูดเสร็จแล้ว จะทำให้ผู้รับบริการได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน และเป็นการดำเนินการที่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว