สระแก้ว-พระ และชาวบ้านรวมตัวเข้าแจ้งความต่อ ตร.วังน้ำเย็น หลังผู้ใหญ่บ้านนำรถแบ็กโฮเข้ามาขุดดิน และตัดต้นสัก และไม้เบญจพรรณที่ชาวบ้านร่วมกันปลูกไว้เป็นป่าชุมชนมานานกว่า 20 ปี
พระภิกษุวิสุทธิ์ ธวโร พระลูกวัดมิตรสัมพันธ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันมาแต่ดังเดิมว่าวัดเขานิมิต ม.13 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พร้อมชาวบ้าน และคนเฒ่าคนแก่ ได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.วังน้ำเย็น หลังมีผู้ใหญ่บ้านนำรถแบ็กโฮเข้ามาขุดดิน และตัดทำลายป่าไม้ชุมชนที่ชาวบ้านได้ร่วมกันปลูกมานานกว่า 20 ปีแล้ว
หลังผู้สื่อข่าวเข้าไปถึงที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านมารวมตัวกันบริเวณที่ผู้ใหญ่บ้านนำรถมาขุดดิน พบว่า ต้นไม้ที่ถูกตัดโค่นเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ และในจำนวนนั้นมีต้นสักอยู่ด้วยจำนวนหลายต้น
นางสังเวียน พลายนนท์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 ม.13 ต. วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น พร้อมกับชาวบ้านได้บอกต่อผู้สื่อข่าวว่า ที่ดินบริเวณนี้เป็นภูเขาเทพนิมิต ชาวบ้านได้กันเป็นที่สาธารณะ เพื่อเป็นขอบเขตของวัด และได้ร่วมกันปลูกป่า และทางวัดได้ดูแลป่านี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว เพื่อกันไว้เป็นป่าชุมชน
ทั้งนี้ เมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา ชาวบ้านผ่านไปผ่านมาเห็นมีรถแบ็กโฮเข้ามาขุดดินบริเวณป่าชุมชน และบรรทุกดินออกไปตลอดเวลา ชาวบ้านจึงรวมตัวกันเข้ามาคัดค้าน แต่ก็ช้าไปเนื่องจากผู้ใหญ่ได้นำรถมาขุดดินไปเป็นบริเวณกว้างมากแล้ว และมีการตัดทำลายต้นไม้ไปจำนวนมาก หนึ่งในต้นไม้เหล่านั้นมีต้นสักทองด้วย
ด้าน พระวิสุทธิ์ ธวโร พระวัดมิตรสัมพันธ์ กล่าวว่า อาตมาอยากขอบิณฑบาตเพื่อเก็บภูเขาและป่าไม้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็น เพราะว่าต่อไปจะไม่มีภูเขาสวยงามอย่างนี้ในชุมชนได้เห็นอีกแล้ว อาตมาเสียดายต้นไม้ซึ่งกว่าจะปลูกได้ใหญ่โตขนาดนี้ต้องใช้เวลานานมาก และปลูกกว่าจะรอดก็ยากเย็น ก็อยากให้ช่วยกันอนุรักษ์ไว้
นายทวี ชัยสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ได้เดินทางมาพร้อมกับกำนันตำบลวังน้ำเย็น ชี้แจงว่า ตนเองได้มีการทำประชาคมต่อลูกบ้านแล้วในการขุดดินเพื่อปรับสถานที่บริเวณดังกล่าว เพื่อรองรับบริเวณโบสถ์
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่ารู้หรือไม่ว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นป่าชุมชนที่ชาวบ้านเขาร่วมกันปลูกต้นไม้ไว้ และเป็นไม้สักทองอีกด้วย โดยผู้ใหญ่ยอมรับว่า รู้ว่าผิดกฎหมายแต่ได้ขออนุญาตแล้ว ส่วนดินนั้นตนเองได้ตกลงกับผู้รับเหมาแลกดินกับลานวัด โดยผู้รับเหมามาขุดดินเอาไปขาย โดยทางวัดไม่ต้องจ่ายเงินค่าขุดดิน