xs
xsm
sm
md
lg

พ่อ-แม่สาวโลตัส วอนตำรวจตามจับคนร้ายสังหารลูกสุดโหด หวั่นคนมีสีช่วยพลิกคดี(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครปฐม - พ่อ-แม่สาวโลตัส วอนตำรวจเร่งตามตัว “ไอ้อาร์ต” บุกยิงลูกสาวถึงห้อง หวั่นคนมีสีช่วย เผยพฤติกรรมโหดทำร้ายจนคอหักแล้วยิงเผาขนอำพรางศพ ด้านแฟนหนุ่มยังทำใจไม่ได้ ยันแม้ไม่ได้แต่งขอดูแลพ่อแม่ฝ่ายหญิง ด้านตำรวจออกหมายจับแล้ว เตือนเป็นบุคคลอันตราย กำชับทีมจับกุมระวังหากพบตัว



วันนี้ (1 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี น.ส.จิราภรย์ หรือมิ่ง เขียวสองห้อง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ 5 ต.ลำเหย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม พนักงานห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขากำแพงแสน ถูกยิงในห้องพัก และคนร้ายพยายามนำศพไปซ่อนอำพราง แต่ศพตกจากรถจักรยานยนต์บริเวณริมถนนมาลัยแมน หน้าโรงเรียนอนุบาลชโรธร หมู่ 1 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน เหตุเกิดคืนวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายคือ นายอนุพันธ์ สุขสมกิจ หรืออาร์ต อายุ 27 ปี อยู่ ต.รางพิกุล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม อดีตแฟนเก่าของผู้ตาย

ล่าสุด นายเตชัส ศรีชูศิลป์ หรือเกมส์ อายุ 24 ปี แฟนผู้ตาย เปิดเผยว่า ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้ คิดว่า น.ส.จิราภรณ์ ยังคงอยู่ใกล้ตัวเองตลอด ตอนนี้ไม่ทราบว่าตำรวจได้ออกหมายจับคนร้ายหรือยัง แต่ข่าวที่ออกไปในสื่อมวลชนบางฉบับระบุว่า แฟนของตนเองนั่งรถออกไปกับคนร้าย หรือขับจักรยานยนต์มาแล้วถูกคนร้ายยิง รวมทั้งคอมเมนต์ในโลกโซเชียล พูดในทำนองว่า ผู้ตายไปอยู่กับคนร้าย และมีพฤติกรรมในทางชู้สาวนั้น ตนเองขอวิงวอนว่าขอให้ช่วยพิจารณาว่าข่าวที่ได้อ่านนั้นเป็นความจริงหรือไม่ เพราะมีข้อมูลที่ไม่ตรงหลายอย่าง

“ผมสงสารมิ่งแฟนของผม ตอนเค้าเสียชีวิตคงจะกลัวมาก ผมเชื่อว่าคนที่แชตคุยไลน์กับผมครั้งสุดท้ายน่าจะเป็นคนร้าย เพราะภาษาที่ใช้คุยกับผมมันไม่ใช่ภาษาของมิ่ง หรือคนร้ายน่ายืนสั่งการให้พิมพ์มาแบบนั้น และผมขอวอนว่า สังคมโซเชียลอย่าทำร้ายศพ และดวงวิญญาณของคนบริสุทธิ์ที่ออกมาตอบโต้อะไรไม่ได้แล้ว เพราะเขาเป็นคนดีมาก มาเสียชีวิตแบบนี้และยังถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นเรื่องชู้สาว ผมสงสารแฟนของผม ยังไงผมก็ขอความยุติธรรมให้เธอด้วย” นายเตชัส พูดด้วยน้ำเสียงเครือ

นายเตชัส กล่าวว่า ตนเชื่อโดยสนิทใจว่าแฟนถูกยิงก่อนในห้องเช่า และคนร้ายจะนำศพไปซ่อนอำพราง แต่ทำตกจากรถจักรยานยนต์ก่อนเพราะมีคนเห็น ก่อนคนร้ายจะรีบหนีไป ซึ่งคนร้ายมาสังหารโดยเฉพาะ เพราะจากหลักฐานน่าจะมีการขึ้นลำกล้องก่อนเข้าไปในห้อง 1 ครั้ง จนกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่หน้าห้อง 1 นัด และมีการยิงในห้อง ส่วนที่มีข่าวว่าคนร้ายพยายามจะนำ น.ส.จิราภรณ์ ไปส่งโรงพยาบาลนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อทำตกจากรถก็คสรกลับมาอุ้มขึ้นมาส่งโรงพยาบาล แต่กลับหนีไปเลย

“มิ่งเคยบอกผมว่านายอาร์ต มีกุญแจห้องพัก แต่ก็ไม่ได้แอะใจ เพราะเห็นว่าเลิกรากันไปนานกว่าครึ่งปี และหายตัวไปเลย ซึ่งนิสัยของมิ่ง จะเป็นคนระมัดระวัง ใครมาเคาะประตูห้องจะมองที่ช่องมองก่อนทุกครั้ง ถ้าไม่แน่ใจจะไม่เปิดประตู ผมเชื่อว่านายอาร์ต อาจใช้กุญแจไขเข้าไปรอในห้อง ทำร้ายแฟนผมจนบอบช้ำ ก่อนจะลงมือสังหารโหด อย่างไรก็ตาม ผมขอยืนยันว่าผมจะขอดูแลพ่อกับแม่ของเขาต่อไป เพราะสำหรับผมความรักคือ การให้ ให้อย่างแท้จริง”

นายแดง เขียวสองห้อง อายุ 52 ปี บิดาของ น.ส.จิราภรณ์ กล่าวว่า ตอนนี้มืดแปดด้าน ไม่รู้จะพึ่งใคร สงสารลูกสาวที่ต้องมาด่วนจากไป นางอรพิณ มารดาก็ยังทำใจไม่ได้ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เอาแต่ร้องไห้ ตนก็เครียด ไม่รู้ว่าตำรวจติดตามคนร้ายไปถึงไหนแล้ว ยิ่งรู้ว่านายอาร์ต เคยมีฆ่าคนตาย และมีเส้นสายเป็นคนมีสีที่เคยช่วยให้พ้นคดีมาได้ ยิ่งกลัวว่าลูกสาวจะตายฟรี สำหรับศพของลูกสาวตั้งสวดอภิธรรมศพที่บ้าน 3 วัน และจะเคลื่อนศพออกไป แต่ยังไม่ฌาปนกิจ จะรอดูว่าตำรวจจะมาเก็บหลักฐานอะไรเพิ่มหรือไม่

นางอรพิน เขียวสองห้อง มารดาผู้ตาย กล่าวว่า อยากถามว่าลูกเราไปทำอะไรเขาถึงมาต้องบุกมายิงถึงห้องพัก และเพิ่งรู้ว่าลูกสาวถูกทำร้าย และคอหักก่อนจะยิง มันโหดเหี้ยมเกินไป ลูกสาวเราเป็นกำลังหลักของครอบครัว กำลังตั้งใจเรียนต่อปริญญาที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ชั้นปีที่ 3 งานก็ทำหนักมาก รถมอเตอร์ไซค์ก็ต้องผ่อน ห้องต้องเช่า เขาหวังจะมาช่วยที่บ้าน เพราะยากจน แต่มาตายแบบนี้แม่ยังรับไม่ได้

ด้าน พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นวีระ ผบช.ภ.7 ได้ขออนุมัติหมายจับนายอนุพันธ์ แล้ว และสั่งการให้ชุดสืบสวนภูธรภาค 7 ออกติดตามคนร้ายอย่างกระชั้นชิด ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยมีคดีติดตัว สำหรับข้อมูลเบื้องต้นพบว่า หลังคนร้ายก่อเหตุได้นำรถจักรยานยนต์ไปทิ้งไว้ในถนนเปลี่ยว ห่างจากที่เกิดเหตุไม่กี่กิโลเมตร มีพยานเห็นใบหน้าชัดเจนจนนำมาซึ่งหมายจับ และได้ติดต่อพ่อแม่ของคนร้าย ให้เกลี้ยกล่อมลูกให้มอบตัว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้

ขณะที่ พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม นำทีมชุดสืบสวน ภ.จว.นครปฐม ประสานกับ สภ.กำแพงแสน และชุดสืบสวนภาค 7 ติดตามภาพจากกล้องวงจรปิด และเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยมีข้อมูลว่า คนร้ายได้ทำร้ายผู้ตายอย่างโหดเหี้ยมแล้วจึงยิงผู้ตาย มีผู้พักอาศัยได้ยินเสียงปืน 1 นัด ก่อนจะแจ้งตำรวจ

ทั้งนี้ หลังก่อเหตุคนได้นำร่างของผู้ตายขึ้นรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่มาห้องเช่าออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้ปิดห้องพัก และมาพบศพผู้ตายที่ริมถนนมาลัยแมน ซึ่งคนร้ายเป็นบุคคลอันตราย จึงกำชับให้ชุดคลี่คลายคดีระวังตัว เพราะคนร้ายยังมีปืนอยู่กับตัว อาจต่อสู้ขัดขืนการจับกุมได้





กำลังโหลดความคิดเห็น