ระยอง - พบเรือเหล็กปริศนาจมทะเลบริเวณอนุสาวรีย์เรือรบหลวงประแส ห่างจากฝั่งประมาณ 500 เมตร หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบที่มา พร้อมตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (28 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า พบเรือเหล็กขนาดใหญ่จมทะเล บริเวณอนุสาวรีย์เรือรบหลวงประแส หมู่ 1 ตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ห่างจากฝั่งประมาณ 500 เมตร เยื้องจุดชมวิววัดแหลมสน (สมมติเทพฐาปนาราม) จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบเรือเหล็กพลิกคว่ำอยู่ในทะเล ขณะที่ชาวบ้านยังพบคราบน้ำมันคล้ายฟิล์มบางๆ ลอยอยู่บริเวณชายฝั่ง
โดยชาวบ้านในพื้นที่ปากน้ำประแส ได้นำเรือประมงวิ่งออกจากฝั่งไปยังบริเวณที่พบเรือจม แต่ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ เนื่องจากพื้นที่บริเวณนั้นมีดอนทรายตื้นเขิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือเหล็กลำดังกล่าวเป็นเรือเปล่า ไม่ได้บรรทุกสินค้า หรือน้ำมัน มีความยาวเรือประมาณ 12 วา ชื่อเรือสงวนสินธ์ เดินทางมาจาก จ.ตราด เพื่อขึ้นคานเรือที่ปากน้ำประแส โดยหลังซ่อมเสร็จลูกเรือได้เตรียมที่จะนำเรือลงน้ำเพื่อเดินทางกลับช่วงกลางดึกวันนี้ แต่เนื่องจากไม่ชำนาญการเดินเรือบริเวณปากร่องแม่น้ำประแส จึงทำให้เรือวิ่งชนโขดทรายปากร่องแม่น้ำ จนพลิกตะแคง และจมลง
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของเรือ และเรือเหล็กลำดังกล่าวมีใช้เพื่อธุรกิจใด รวมทั้งต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดถึงเจ้าของคานเรือว่า เรือลำนี้มีสิ่งผิดปกติหรือไม่
ด้านนักตกปลาบริเวณจุดชมวิว หน้าวัดแหลมสน กล่าวว่า ขณะกำลังนั่งตกปลาในช่วงเวลากลางดึกที่ผ่านมา ได้ยินเสียงเรือลำดังกล่าววิ่งออกจากฝั่งปากน้ำประแสได้เพียงครู่ ก่อนจะยินเสียงเร่งเครื่อง จากนั้นก็เห็นเรือพลิกตะแคงคว่ำจมทะเล และในช่วงรุ่งเช้าที่ผ่านมา ได้เห็นว่ามีเรือออกไปรับคนในเรือกลับขึ้นฝั่ง 1 คน คาดว่าไม่มีลูกเรือบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
ส่วน นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ระยอง กล่าวว่า หลังได้รับรายงานว่ามีเรือจมบริเวณอนุสาวรีย์เรือรบหลวงประแส ห่างจากฝั่ง 500 เมตร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบ ขณะเดียวกัน นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้สั่งการให้ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ศูนย์พัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 1 ร่วมกับศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ตรวจสอบว่ามีผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเล และป่าชายเลนหรือไม่
พร้อมให้เจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบบริเวณเรือจม และเก็บตัวอย่างคุณภาพน้ำทะเลไปตรวจ เบื้องต้น ยังไม่มีผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลแต่อย่างใด
