ตร.ตามจับลูกชายเหยื่อฆ่าแล้วเผา สงสัยทำปิตุฆาต รับโกรธพ่อแต่อ้างสติไม่ดี

เชียงราย - ตำรวจเมืองเชียงรายตามจับหนุ่มวัย 35 ปีต้องสงสัยฆ่าแล้วเผาพ่อตัวเอง ก่อนทิ้งศพในร่องน้ำ พบถอดเสื้ออยู่ในเล้าหมู เบื้องต้นรับโกรธพ่อดื่มเหล้าขี่จักรยานยนต์ชนจนเท้าถลอก แต่จำเหตุการณ์หลังจากนั้นไม่ได้

วันนี้ (23 ก.พ.) พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สภ.แม่ยาว จ.เชียงราย พ.ต.ต.ชัยยุทธ ครองงามภิญโญ สารวัตรเวรเจ้าของคดี พ.ต.ท.สมพร เชยบาล สารวัตรสืบสวน ระดมกำลังกันออกติดตามหาตัวนายวิทศักดิ์ ชัยเวียง อายุ 35 ปี บุตรชายนายสุข ชัยเวียง อายุ 59 ปี ชาวบ้านเลขที่ 291 หมู่บ้านห้วยขม ม.1 ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ที่ถูกฆ่าแล้วเผาทิ้งศพในร่องน้ำเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากต้องสงสัยเป็นผู้ลงมือฆ่าพ่อเพราะหายตัวไปจากบ้านอย่างน่าสงสัย

ต่อมาเจ้าหน้าที่พบนายวิทศักดิ์ถอดเสื้อผ้าอยู่ในคอกหมูด้านหลังวัดห้วยขม ห่างจากบ้านของตัวเองประมาณ 1-2 กิโลเมตร จึงได้เข้าไปควบคุมตัวมาทำการสอบปากคำ

นายวิทศักดิ์ให้การว่าโกรธบิดาอย่างมาก หลังจากที่ดื่มสุราอย่างหนักตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 ก.พ. กระทั่งถึงวันเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกนอกบ้านชนตนจนเท้าด้านขวาเป็นบาดแผลถลอก ทำให้ตนบันดาลโทสะอย่างรุนแรง แต่จำเหตุการณ์ต่อจากนั้นไม่ได้อีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สุคนธ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสอบถามเหตุการณ์หลังจากนั้น แต่นายวิทศักดิ์ยังคงให้การปฏิเสธว่าจำเหตุการณ์ถัดจากนั้นไม่ได้อีกเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาตัวไปดูที่บ้าน และพาไปดูจุดที่พบศพนายสุข ซึ่งห่างจากตัวบ้านประมาณ 500 เมตร ซึ่งที่เกิดเหตุพบท่อนไม้มีรอยบิ่นคาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ฟาดบริเวณเหนือคิ้วขวานายสุขก่อนจะลงมือเผา 2 ท่อน และพบท่อนไม้ไผ่มีรอยไฟไหม้ 1 ท่อน ก่อนไปตรวจค้นที่บ้านที่ทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกัน ก็พบผ้าเช็ดตัวมีคราบเลือดติดอยู่ 1 ผืน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บรถจักรยานยนต์ ท่อนไม้ และผ้าเช็ดตัวเป็นหลักฐาน พร้อมตรวจดีเอ็นเอจากคราบเลือด และนำตัวนายวิทศักดิ์ไปตรวจดีเอ็นเอ ขณะเดียวกันได้ขอหลักฐานทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษาโรคทางจิตของนายวิทศักดิ์ ซึ่งมารดา คือ นางแสงจันทร์ ชัยเวียง อายุ 59 ปี แจ้งว่าสติไม่สมประกอบ ต้องรับยามานาน 10 ปีแล้ว

พ.ต.อ.สุคนธ์กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนจะได้เก็บข้อมูลหลักฐานทุกอย่าง โดยเฉพาะผลตรวจดีเอ็นดี ซึ่งคดีนี้ต้องใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพราะบุตรชายผู้ตายอ้างว่าจำเหตุการณ์ไม่ได้เลย แต่ก็ถือว่าคลี่คลายตรงที่รับว่าบิดาได้ขี่รถจักรยานยนต์ชนจนเป็นเหตุให้บันดาลโทสะอย่างรุนแรง ซึ่งหลังจากได้ข้อมูลหลักฐานหมดแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอให้ทางแพทย์ลงความเห็นเกี่ยวกับอาการ โดยตำรวจจะมีการตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเอาไว้ก่อน และแนบเอกสารทางการแพทย์เพื่อให้ศาลได้พิจารณาว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป