xs
xsm
sm
md
lg

คุมปลัดหึงโหดฝากขังศาล ค้านประกัน-หวั่นหลบหนี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตำรวจชุมพรคุมตัวปลัด อบต.สวนแดง มือปืนหึงโหดยิงรองปลัด อบต.สาวดับกลางห้างโลตัสฝากขังต่อศาลจังหวัดชุมพร พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ หวั่นหลบหนี ขณะที่ผู้ต้องหาอ้าง "ผมบันดาลโทสะ" ขณะที่ญาติปลัดสาวเผยผู้ตายไม่กล้าไปทำงานนานเกือบ 1 สัปดาห์เพราะเกรงไม่ปลอดภัยก่อนถูกสังหาร

จากกรณี ส.ต.ท.นรภัทร์ เพชราภรณ์ ปลัด อบต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร ยิง น.ส.ภาดา ยังสถิตย์ รองปลัด อบต.สวนแตง ซึ่งทำงานที่เดียวกันตายกลางห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาชุมพร ท่ามกลางสายตาประชาชนที่ไปเดินชอปปิงภายในห้าง ซึ่งกล้องวงจรปิดภายในห้างจับภาพนาทีลั่นไกสังหารไว้ได้ทั้งหมด ส่วนสาเหตุมาจากความหึงหวงเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 17 ก.พ.58

ต่อมาวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ส.ต.ท.นรภัทร์ ได้เข้ามอบตัวเพื่อสู้คดี โดยพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้มีปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติกรรม ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน เบื้องต้นให้การภาคเสธข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่นตายและพยายามฆ่า โดยอ้างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากการบันดาลโทสะ ส่วนรายละเอียดของเหตุการณ์จะให้การในชั้นศาลเท่านั้น และทางตำรวจไม่ให้ประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญและเป็นที่สนใจของประชาชน ทำให้ต้องถูกคุมขังในที่ห้องขัง สภ.เมือง เมื่อคืนที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (19 ก.พ.) ร.ต.ท.บุญเลิศ แก้วสนั่น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เจ้าของคดี ได้ทำสำนวนสอบปากคำ ส.ต.ท.นรภัทร์ เพชราภรณ์ เป็นที่เรียบร้อยและครบกำหนดการควบคุมตัว 48 ชั่วโมงได้ทำบันทึกลงประจำวันนำตัว ส.ต.ท.นรภัทร์ เพชราภรณ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงผู้อื่นเสียชีวิตส่งศาลฝากขังเป็นผลัดแรก

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ส.ต.ท.นรภัทร์ เพชราภรณ์ ผู้ต้องหา ที่มีสีหน้าเคร่งเครียดกว่าเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ว่า สาเหตุที่ทำในครั้งนี้มาจากอะไร ได้รับคำตอบเพียงสั้นๆว่า "ผมบันดาลโทสะ" จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวขึ้นรถยนต์สายตรวจนำตัวไปฝากขออนุญาตฝากขังต่อศาลจังหวัดชุมพร

สำหรับศพของ น.ส.ภาดา ยังสถิตย์ หรือโบว์ อายุ 38 ปี รองปลัด อบต.สวนแตง ซึ่งตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ ณ บ้านเลขที่ 31 หมู่ 4 ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร เป็นวันที่ 3 แล้วท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของพ่อแม่พี่น้องญาติๆ และเพื่อนบ้านเดินทางมาช่วยงานและจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันจำนวนมาก และคอยติดตามข่าวจากสื่อต่างๆ ตลอดเวลา

นายสุทัศน์ ยังสถิตย์ อายุ 63 ปี บิดาของ น.ส.ภาดา ผู้เสียชีวิตเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องราวชีวิตของลูกสาวตนเองว่า อดีตลูกสาวเคยแต่งงานอยู่กินกับสามีซึ่งเป็นตำรวจจนมีลูกชายด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันได้เลิกรากันมานาน 6 ปีแล้ว และหลังจากที่ลูกสาวเลิกกับสามี ส.ต.ท.นรภัทร ก็ได้มาติดพันและชอบพอกับลูกสาวตน

แต่ ส.ต.ท.นรภัทร มีนิสัยเป็นคนขี้หึงถึงขั้นเคยมีปัญหากระทบกระทั่งกับอดีตสามีของลูกสาวตนเองมาแล้วหลายครั้ง ทั้งที่ทั้ง 2 คนเลิกติดต่อกันมานาน จนล่าสุดลูกสาวไม่พอใจพฤติกรรมส่วนตัว จึงทำตัวออกห่าง แต่ทางฝ่าย ส.ต.ท.นรภัทร ก็ยังตามตื้อตลอดเวลา

ก่อนเกิดเหตุไม่ถึง 10 วัน ส.ต.ท.นรภัทร และลูกสาวของตนก็มีเรื่องทะเลาะกันในที่ทำงานจนถึงขั้นต้องขึ้นโรงพักที่ สภ.ละแม มาแล้ว ซึ่งตอนนี้ทราบว่าผู้ต้องหาเข้ามอบตัวสู้คดีตนจึงขอวิงวอนให้ดำเนินให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ขณะนี้ความรู้สึกลึกๆ ก็กลัวว่าลูกสาวจะตายฟรีเพราะผู้ต้องหามีพรรคพวกผู้มีอิทธิพลพอสมควร

นางอาลัย ยังสถิต อายุ 60 ปี มารดาของ น.ส.ภาดา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นลูกสาวไม่ค่อยสบายใจมาได้เกือบ 2 อาทิตย์ จนเมื่อวันที่ 13 ก.พ.58 ประมาณ 10.00 น. ส.ต.ท.นรภัทร ได้มาตามหาลูกสาวที่บ้านพร้อมกราบเท้าตนสารภาพว่า รัก น.ส.ภาดา ลูกสาวตนมาก และอยากจะมาสู่ขอตามประเพณี และช่วงนี้เกิดเรื่องทะเลาะกันอย่างรุนแรงและได้ตามง้อมาตลอด แต่ตนก็ได้บอกไปว่าตอนนี้เท่าที่รู้ลูกสาวนับถือ ส.ต.ท.นรภัทร เหมือนพี่ชายเท่านั้น และอยู่พูดคุยกับตนกว่า 2 ชั่วโมงแล้วกลับไป จนเช้าวันที่ 14 ก.พ.58 ส.ต.ท.นรภัทร ได้นำกล่องของขวัญลายดอกกุหลาบสีแดงมาหาลูกสาวตนอีกแต่ก็ไม่พบจึงฝากไว้กับตนไว้ กระทั้งเย็นวันที่ 17 ก.พ.มาเกิดเหตุร้ายแรงดังกล่าวขึ้น

ขณะที่นายอุดร ยังสถิตย์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 9 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ปัจจุบันเป็นประธานสภา อบต.พระรักษ์ มีศักดิ์เป็นอาของผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา น.ส.ภาดา หลานสาวได้มาขอร้องให้ตนช่วยทำเรื่องขอย้ายไปช่วยราชการที่ อบต.พระรักษ์ชั่วคราว เพราะทำงานที่ อบต.สวนแตง ไม่ได้แล้ว กลัวความไม่ปลอดภัย ตนจึงพยามช่วยเหลืออยู่

ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ก.พ. จู่ๆ หลานสาวก็ไม่ยอมเข้าไปทำงานที่ อบต.สวนแตง นานเกือบสัปดาห์ ตนเห็นว่าอาจจะถูกให้ออกจากราชการ จึงบอกให้หลานสาวไปทำงานตามปกติและจะเร่งติดตามเรื่องการขอย้ายให้ จนหลานยอมเข้าไปทำงานเมื่อวันจันทร์ที่ 16 ก.พ.และวันถัดมาก็เกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น ตนเชื่อว่า ส.ต.ท.นรภัทร คงจะติดตามความเคลื่อนไหวของหลานสาวตนตลอดเวลา จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีด้วยความยุติธรรมเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนับได้ว่าอุกอาจและสะเทือนขวัญชาวบ้านอย่างมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น