“ดอยเต่า” แล้ง น้ำแห้งกลายเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ แพเกยตื้นแล้ว (ชมคลิป)

เชียงใหม่ - ชาวบ้านดอยเต่าเดือดร้อนหนักกว่า 4 ตำบล แล้งจัดไม่มีน้ำใช้ทำการเกษตร พืชผลผลิตแคระแกร็น ต้องควักกระเป๋าซื้อน้ำมันใส่เครื่องสูบน้ำบาดาลมาใช้แทน วอนฝนหลวงช่วยเหลือ ขณะที่ทะเลสาบดอยเต่าแหล่งท่องเที่ยวดังกลายเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ ไม่มีน้ำให้คนล่องแพกว่า 2 ปีแล้ว



วันนี้ (23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักชลประทานที่ 1 จ.เชียงใหม่ นำโดยนายสุภรณ์วัฒน์ สุรการ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำที่ 8 พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแม่ตูบ หมู่ 5 ต.ปงทุ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ หลังชาวบ้านร้องเรียนว่าขาดแคลนน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร

พบว่าอ่างเก็บน้ำแม่ตูบ ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริ มีความจุ 39 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่เคยเป็นแหล่งส่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตรใน อ.ดอยเต่า 4 ตำบล คือ ต.แม่กา ท่าเดื่อ ปางทุ่ง และดอยเต่า ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียง 1.3 ล้านลูกบากศ์เมตร ไม่สามารถส่งให้ชาวบ้านใช้ทำการเกษตรได้แล้ว เหลือน้ำต้นทุนสำหรับอุปโภคบริโภค และเลี้ยงตัวอ่างไว้เท่านั้น

จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า มีพื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบเป็นที่นากว่า 2,000 ไร่ สวนลำไย 2,360 ไร่ ข้าวโพดหวาน 88 ไร่ มะละกอ 28 ไร่ ยางพารา 4 ไร่ บ่อปลา 2 ไร่

นายผล ตาสอน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 614 หมู่ 3 ต.ดอยเต่า อ.ดอยเต่า เปิดเผยว่า ตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก เพราะผลผลิตการเกษตรยังไม่ได้เก็บเกี่ยว ที่ปลูกไปแล้วต้องการน้ำทุกวัน ทำให้ต้นแคระแกร็นผลผลิตไม่สมบูรณ์ ชาวบ้านก็ได้แต่แบกรับต้นทุนค่าน้ำมันเติมเครื่องสูบน้ำบาดาลมาใช้วันละ 400-500 บาท

“ที่ผ่านมาช่วงแล้งเคยทำเรื่องขอไปทางฝนหลวงให้มาช่วยเกษตรกรทางดอยเต่าบ้าง แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ทะเลสาบดอยเต่าที่เคยสวยงาม ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมานอนพักแรมในแพ พบว่าแห้งแล้งกลายเป็นทุ่งกว้างให้ชาวบ้านนำสัตว์มาเลี้ยงแทน โดยเจ้าของแพได้แต่ล้อมรั้วรอบแพไว้รอให้น้ำขึ้นและเปิดแพต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่เพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงทำให้ไม่มีน้ำมากว่า 2 ปีแล้ว