ทหารฝ่ายปกครองบุรีรัมย์รุกตรวจสอบป่าสาธารณะ “โคกหนองตะคลอง”

บุรีรัมย์ - ทหาร ตำรวจ พร้อมฝ่ายปกครองใน จ.บุรีรัมย์ลงพื้นที่ตรวจสอบและขอคืนพื้นที่ป่าสาธารณะหนองตะคลอง เนื้อที่กว่า 2,900 ไร่ หลังถูกนายทุนและชาวบ้านบุกรุกสร้างที่อยู่อาศัยและทำเกษตรมากกว่าพันไร่ พร้อมให้กลุ่มผู้บุกรุกที่อ้างมีเอกสารสิทธินำมายืนยัน

วันนี้ (19 ก.พ. 58) พ.อ.ธนกฤต พันธุ์รอด หัวหน้าชุดประสานงานประชาสัมพันธ์ช่วยเหลือประชาชน กองกำลังรักษาความสงบ จังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ นางสาวเมตตา สินยบุตร นายอำเภอคูเมือง พ.ต.อ.พิศิษฎ์ ศรีสุพล ผู้กำกับการ สภ.คูเมือง พ.ท.ประพล อาจหาญ ผู้แทนกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม ฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้นำท้องถิ่น

ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชน ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ร้องเรียนว่ามีกลุ่มนายทุนและชาวบ้านเข้าไปบุกรุกครอบครองปลูกสร้างที่อยู่อาศัยและทำเกษตรปลูกมันสำปะหลัง อ้อย และยางพารา ในพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์ “ป่าโคกหนองตะคลอง” อยู่บริเวณ ต.หนองขมาร อ.คูเมือง เนื้อที่มากกว่า 1,000 ไร่ จากเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 2,940 ไร่

จากการตรวจสอบกลุ่มที่บุกรุกพบว่า ชุมชนบ้านหนองตะคลองกว่า 40 ครัวเรือนอยู่ในพื้นที่สาธารณะโดยไม่มีเอกสารสิทธิครอบครอง บางรายอ้างมีเอกสารสิทธิ เช่น น.ส.3 ก., ส.ป.ก.4-01 และ ส.ค.1 อีกรวมแล้วกว่า 100 ราย เจ้าหน้าที่ให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวนำเอกสารสิทธิมาแสดงต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อจะให้เจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปตรวจสอบเอกสารสิทธิดังกล่าวว่าถูกต้องหรือไม่ แต่หากตรวจพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้องจะดำเนินการตามกฎหมายและผลักดันออกจากพื้นที่ป่าสาธารณะประโยชน์ดังกล่าวเพื่อฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพป่าที่สมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ขอคืนผืนป่าในครั้งนี้ได้มีชาวบ้านมาถือป้ายให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ให้ดำเนินการขอคืนผืนป่าดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพื่อประชาชนจะได้ร่วมกันเข้าไปอนุรักษ์ฟื้นฟูต่อไป

นางสาวเมตตา สินยบุตร นายอำเภอคูเมือง กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับหลายฝ่ายในครั้งนี้ จะรวบรวมข้อมูลและปัญหาการบุกรุกของชาวบ้านและกลุ่มนายทุนนำเข้าที่ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในวันที่ 10 มีนาคม 2558 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อเร่งดำเนินการตามกฎหมายและผลักดันกลุ่มผู้บุกรุกขอคืนพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์ “โคกหนองตะคลอง” กลับมาฟื้นฟูให้คืนความอุดมสมบูรณ์อย่างในอดีตต่อไป