ระดมคน “เวียงสา” เร่งรณรงค์งดเผาป่าน่าน สกัดหมอกควันคลุมเมือง

น่าน - นายอำเภอเวียงสาระดมพลังมวลชนทุกภาคส่วนรณรงค์ไม่เผาป่า ขณะที่ ผอ.ส่วนควบคุมไฟป่าตั้งเป้าปีนี้ต้องควบคุมการเผาป่าทุกชนิดให้ได้ไม่น้อยกว่า 60% ย้ำคนฝ่าฝืนมีสิทธิ์เจอโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี ปรับ 5,000-150,000 บาท

วันนี้ (9 ก.พ.) นายวิบูลย์ จิระภากรณ์ นายอำเภอเวียงสา จ.น่าน เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ ที่สนามกีฬาโรงเรียนศรีเวียงสาวิทยาคาร อ.เวียงสา โดยมีส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อุทยาน ผู้นำชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แกนนำอาสาสมัคร ดับไฟป่า นิสิตนักศึกษา นักเรียน เยาวชน และชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมโครงการกว่า 500 คน

นายอุธร สุทธิมิตร ผู้อำนวยการส่วนควบคุมไฟป่า สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในจังหวัดน่านในภาพรวมขณะนี้ถือว่ายังควบคุมได้ แต่ยังมีผู้บุกรุกแผ้วถางเพื่อขยายที่ทำกิน ปลูกข้าวโพด รองลงมาคือ เผาป่าเพื่อล่าสัตว์และหาของป่า

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้มีการตั้งวอร์รูมที่สำนักงาน ทสจ.น่าน เพื่อติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้ประสานหน่วยงานระดับอำเภอเข้าระงับเหตุ หากพบเห็นการเกิดไฟป่าในพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์และป่าสงวน

พร้อมกันนั้น จังหวัดน่านได้กำหนดให้ปัญหาหมอกควันไฟป่าปี 2558 เป็นวาระสำคัญของจังหวัด เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าในจังหวัดน่านรุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าว่าปีนี้จะสามารถควบคุมพื้นที่เผาป่าได้กว่าร้อยละ 60

ทั้งนี้ การเผาป่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่ต้นไม้ทุกชนิด ทุกขนาด และทำให้สัตว์ป่าลดน้อยลง พื้นที่หน้าดินถูกเผาทำลาย ขาดสิ่งปกคลุมหน้าดิน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความลาดชันมาก หากฝนตกหนักจะทำให้เกิดการพังทลายของหน้าดินอย่างรวดเร็ว เกิดน้ำป่าไหลหลาก มีตะกอนขุ่นข้น ลำธารตื้นเขินจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลเสียหายต่อไร่นา ทรัพย์สิน และชีวิตของราษฎรอย่างประเมินค่าไม่ได้

อีกทั้งผลจากการเผาป่าพร้อมๆ กันในหลายพื้นที่ทำให้เกิดกลุ่มหมอกควันหนาแน่น เครื่องบินไม่สามารถขึ้นลงได้ตามปกติ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการพาณิชย์และท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน มีผลต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะระบบทางเดินทายใจอย่างมาก

จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดน่านให้งดการบุกรุกแผ้วถางป่า และการจุดไฟเผาป่าโดยเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ผู้ฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษ มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-150,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แต่หากจำเป็นต้องจุดไฟเผาเศษวัชพืชในพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งอยู่ใกล้กับป่าธรรมชาติ จะต้องทำแนวกันไฟล้อมรอบพื้นที่ก่อนจุดไฟ และต้องควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันมิให้เกิดไฟลุกลามเข้าพื้นที่ป่าธรรมชาติ และบริเวณสองข้างทางหลวงทุกสายในท้องที่จังหวัดน่านให้งดเว้นการจุดไฟป่า

นอกจากนี้ หากพบเห็นการบุกรุกแผ้วถางป่าและเผาป่า โปรดแจ้งอำเภอ ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) โทรศัพท์ 0-5452-1568 หรือสถานีควบคุมไฟป่าน่าน ต.วรนคร อ.ปัว โทรศัพท์ 0-5485-4055 มือถือ 08-9852-3879 หรือสถานีควบคุมไฟป่าศรีน่าน ต.ศรีสะเกษ อ.นาน้อย โทรศัพท์มือถือ 08-5038-9808 หรืออุทยานแห่งชาติ หรือหน่วยป้องกันรักษาป่าให้ทราบโดยด่วน เพื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการควบคุมและดับไฟป่าได้ทันท่วงทีต่อไป