กาฬสินธุ์ - งบภัยแล้งพ่นพิษ อดีตประธานสภาเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เดือด! เตรียมฟ้อง ป.ป.ช.และ สตง. เอาผิดผู้บริหารท้องถิ่น ฐานบุกรุกที่สาธารณะ และโยกย้ายงบประมาณสร้างถังประปาแก้ไขปัญหาภัยแล้งโดยไม่ผ่านประชาคม และมติสภา
จากกรณีชาวบ้านป่ากุง หมู่ 5 ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กว่า 100 คน บุกสำนักงานเทศบาล โวยผู้บริหารท้องถิ่น โยกย้ายสถานที่สร้างถังประปาแก้น้ำแล้ง งบประมาณ 1.8 ล้านบาท โดยไม่ผ่านประชาคม และมติสภา ที่หลังจากนำหนังสือเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมแล้ว แกนนำชาวบ้านโดยอดีตประธานสภา ลั่นเตรียมฟ้อง ป.ป.ช.และ สตง.เพื่อเอาผิดผู้บริหารท้องถิ่น ใช้งบประมาณผิดวัตถุประสงค์ ทำให้เสียโอกาสใช้น้ำในหน้าแล้ง และกำลังได้รับความเดือดร้อนสาหัสจากภาวะขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้
ที่สำนักงานเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ นายสุรพจน์ รัชชุศิริ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ นายสงกรานต์ ไมยวงษ์ ท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย นายธำรง สุจิตตกุล ปลัดอาวุโสอำเภอห้วยเม็ก และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งเอกสาร และสถานที่ กรณีเกิดข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านกับผู้บริหารท้องถิ่น
กรณีจะโยกงบประมาณสร้างถังประปาความดันสูง ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำนวน 1.8 ล้านบาท โดยนายทองดี แก้วภิรมย์ นายกเทศมนตรีคำเหมือดแก้ว ยืนยันที่จะโยกย้ายจากอ่างเก็บน้ำวังลิ้นฟ้าตามแผนที่เขียนเสนอของบประมาณของผู้บริหารชุดเดิม มาที่หนองโสกผักหวาน ซึ่งไม่อยู่ในแผนโครงการ และเป็นที่สาธารณะที่ยังไม่ได้รับการขออนุญาตจากส่วนราชการที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะไม่ผ่านการประชาคม และมติของสภา
ทั้งนี้ นายสุรพจน์ รัชชุศิริ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้เปิดห้องประชุมเพื่อเปิดเวทีให้ชาวบ้าน และผู้บริหารได้ชี้แจงเหตุผลของแต่ละฝ่าย แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากชาวบ้านยืนยันที่จะให้มีการก่อสร้างตามแผนของโครงการเดิม เพราะเชื่อว่าสามารถแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำได้ในระยะยาว
ขณะที่ นายทองดี ยืนยันจะย้ายสถานที่ใหม่ และจะเดินหน้าทุกวิถีทางเพื่อโยกงบประมาณดังกล่าวมาสร้างถังประปาที่หนองโสกผักหวานแห่งใหม่ จึงทำให้การประชุมเกิดการโต้แย้งไปมาและหาข้อสรุปไม่ได้
นายสงกรานต์ ไมยวงษ์ ท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เมื่อได้ทราบปัญหาดังกล่าว ท้องถิ่นจังหวัด ในฐานะส่วนราชการที่กำกับดูแลการบริหารการปกครอง และข้อกฎหมายต่างๆ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็ได้ร่วมกับศูนย์ดำรงธรรม ลงรับฟังปัญหาข้อขัดแย้ง และตรวจสอบทั้งด้านเอกสาร สถานที่ ตามหลักการวิทยาศาสตร์ และความพร้อม ซึ่งคาดว่าจะให้คำตอบภายใน 1 เดือน ก่อนเสนอกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อนุมัติต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมสิ้นสุดลง นายพูนพิพัฒน์ เรืองแสน อดีตประธานสภา และแกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า การกระทำของผู้บริหารท้องถิ่นที่จะย้ายสถานที่ก่อสร้างถังประปาจากแผนเดิมที่ได้รับงบประมาณมาไปสร้างที่อื่นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากแผนของโครงการดังกล่าวระบุอย่างชัดเจนที่จะให้มีการก่อสร้างที่อ่างเก็บน้ำห้วยวังลิ้นฟ้า ที่มีปริมาณน้ำสะอาด เพียงพอ ชาวบ้านได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่
แต่นายกฯ คนใหม่จะปรับย้ายโดยไม่ผ่านการประชาคม และมติของสภา โดยจะโยกมาสร้างที่หนองโสกผักหวาน ซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตจากส่วนราชการใด ทั้งยังยืนกรานที่จะวิ่งเต้นเปลี่ยนสถานที่ให้ได้ ซึ่งไม่เข้าใจว่าทำถึงเป็นเช่นนี้ ทำให้ชาวบ้านที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้เดือดร้อนยิ่งไปอีก
นายพูพิพัฒน์ ระบุว่า หากจะสร้างที่อ่างเก็บน้ำวังลิ้นฟ้าตามแผนเดิม ก็สามารถสร้างได้เลย เพราะดำเนินการผ่านตามระบบราชการแผ่นดินทุกกระบวนการ ทั้งงบประมาณ สัญญาจ้างกับผู้รับเหมา แต่หากเปลี่ยนสถานที่ต้องเริ่มต้นใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานกี่ปีกว่าจะได้มา ดังนั้น การกระทำของนายทองดี จึงส่อเจตนาบุกรุกที่สาธารณะ ขัดต่อข้อระเบียบโครงการ ซึ่งจะเตรียมเอกสารยื่นฟ้อง สตง. และ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดต่อผู้บริหารต่อไป