กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านตำบลคำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก โวยนายกเทศมนตรีตำบลคำเหมือดแก้วลุแก่อำนาจ โยกงบสร้างถังประปาแก้น้ำแล้ง 1.8 ล้านบาทไม่ผ่านประชาคมและมติสภา ชี้เสียโอกาสใช้น้ำหน้าแล้ง เล็งล่ารายชื่อร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่สำนักงานเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านประมาณ 100 คน นำโดยนายพูนพิพัฒน์ เรืองแสน อดีตประธานสภาเทศบาล นำชาวบ้านเข้ายื่นหนังสือคัดค้านการย้ายสถานที่ก่อสร้างถังประปาความดันสูง โดยมีนายทองดี แก้วภิรมย์ นายกเทศมนตรี ออกมารับหนังสือด้วยตนเอง พร้อมเปิดเวทีให้ชาวบ้านซักถามเต็มที่
นายพูนพิพัฒน์กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านในตำบล 9 หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ เพราะระบบน้ำประปาไม่เพียงพอ โดยเฉพาะบ้านป่ากุง หมู่ 5 ประชาชนประมาณ 100 หลังคาเรือนเดือดร้อนแสนสาหัสแทบไม่มีน้ำอาบและดื่มกิน ซึ่งที่ผ่านมาใช้น้ำจากระบบประปาหอสูงจากอ่างเก็บน้ำวังลิ้นฟ้า 3 ถัง แต่ต้องแย่งกันใช้น้ำถึง 6 หมู่บ้าน ทำให้น้ำไหลไม่สะดวก
ปัญหาดังกล่าว ในปี 2554 คณะผู้บริหารชุดเดิมได้จัดทำโครงการแก้ปัญหา โดยประสานของบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นก่อสร้างถังประปาความดันสูงขึ้นอีก 1 ถัง ก่อนจะได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2556/57 จำนวน 1.8 ล้านบาท เพื่อให้บริการน้ำแก่ชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน คือ บ้านป่ากุง หมู่ 5 และบ้านโนนศิลาอาสน์ หมู่ 2 แต่ช่วงของคณะผู้บริหารชุดใหม่จัดซื้อจัดจ้างช่วงเดือนตุลาคม 2557 ก่อนจะได้ผู้รับเหมา และทำสัญญาจ้างในเดือนธันวาคม 2557 ซึ่งในสัญญาระบุว่าผู้รับเหมาจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จ และสามารถเปิดให้บริการได้ภายในเวลา 1 เดือน
แต่ผ่านมากว่า 1 เดือนยังไม่ก่อสร้าง ภายหลังทราบว่าคณะผู้บริหารชุดใหม่ โดยมีนายทองดีเป็นนายกเทศมนตรี โยกย้ายสถานที่ก่อสร้างถังประปาแห่งใหม่จากอ่างเก็บน้ำวังลิ้นฟ้ามาที่หนองโสกผักหวาน ชาวบ้านเห็นว่าเป็นการกระทำไม่ถูกต้อง ขัดต่อระเบียบหลายประการ เช่น ไม่สอดคล้องกับโครงการที่คณะผู้บริหารชุดเดิมเขียนเสนอของบประมาณ หนองโสกผักหวานไม่ได้อยู่ในแผน และไม่ได้ผ่านการประชาคมจากชาวบ้านและสภา ปริมาณน้ำน้อย ไม่สะอาด มีสารพิษเจือปนจำนวนมาก นอกจากนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตจากส่วนราชการที่รับผิดชอบ หากทำเรื่องขออนุญาตใช้ที่ดินจะต้องใช้เวลานาน
ด้านนายทา วงอนันต์ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 บ้านป่ากุง หมู่ 5 กล่าวว่า ชาวบ้านกำลังจะอดน้ำตาย จึงขอคัดค้านถึงที่สุด หากไม่สำเร็จจะเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ชาวบ้านป่ากุงรอมานับสิบปีแล้ว แต่ต้องฝันร้ายเมื่อผู้บริหารเทศบาลจะโยกย้ายไปสร้างที่อื่น เอาความต้องการของตนเป็นใหญ่ ทำให้ชาวบ้านป่ากุงเสียโอกาสใช้น้ำ หากย้ายสถานที่จริงต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ คาดว่าจะต้องมีรายจ่ายเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท แต่หากก่อสร้างที่อ่างเก็บน้ำวังลิ้นฟ้าจะจ่ายน้ำได้ทันที
ด้านนายทองดีกล่าวว่า สาเหตุที่ต้องโยกย้ายมาสร้างที่หนองโสกผักหวาน เพราะเห็นว่าที่อ่างเก็บน้ำวังลิ้นฟ้ามีถังประปาเดิมแล้ว 3 ถัง หากจะสร้างเพิ่มอีก 1 ถัง เป็น 4 ถัง ก็ยิ่งจะทำให้น้ำไม่พอใช้ จึงต้องหาสถานที่แห่งใหม่เพื่อลดการแย่งน้ำ เป็นการแก้ปัญหาน้ำไหลไม่สะดวก และไม่เพียงพอในระยะยาวอีกด้วย อีกทั้งการย้ายมาสร้างที่หนองโสกผักหวานช่วยให้น้ำประปาบ้านป่ากุงและบ้านโนนศิลาอาสน์ไหลสะดวกยิ่งขึ้นเพราะไม่ต้องใช้น้ำร่วมกับหมู่บ้านอื่น ส่วนการขออนุญาตใช้ที่ดินหรือทำเรื่องย้ายสถานที่นั้น อยู่ระหว่างดำเนินการและขึ้นอยู่กับคำสั่งของทางจังหวัดว่าจะอนุมัติหรือไม่ โดยส่วนตัวยังยืนยันที่จะย้าย เพราะเชื่อว่าหนองโสกผักหวานเหมาะกว่าอ่างเก็บน้ำวังลิ้นฟ้า สามารถแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำได้
อย่างไรก็ตาม การคัดค้านของชาวบ้านและคำชี้แจงของนายทองดีใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งเต็มไปด้วยความตึงเครียด และโต้เถียงกันเป็นระยะ ไม่สามารถหาข้อยุติได้ ชาวบ้านจึงแยกย้ายกลับ โดยเตรียมล่ารายชื่อขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดต่อไป