ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อบต.สาคู สนธิกำลังทหารเรือ ตำรวจ ปกครองจังหวัด เข้ารื้อถอนอาคารรุกที่สาธารณะหาดในยาง หลังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัด มีมติยกคำร้องอุธรณ์ 2 ราย ขณะที่เจ้าของอาคารระบุเจ้าหน้าที่ไม่ให้ความเป็นธรรม
วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่หาดในยาง ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายสุรินทร์ โยธารักษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา พร้อมเครื่องมือหนักรถแบ็กโฮ เข้ารื้อถอนอาคาร ของนายอรุณ แผ้วพันชู และนายสัญญา ไตรรงค์ทอง รวมจำนวน 2 หลัง หลังจากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดภูเก็ต ได้ประชุมพิจารณาการขออุทธรณ์คำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว และมติที่ประชุมมีความเห็นว่า ที่ดินที่ก่อสร้างอาคารนั้นเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ เจ้าพนักงานท้องถิ่นออกคำสั่งให้รื้อถอนอาคารชอบด้วยกฎหมาย จึงยกคำร้องอุทธรณ์รายนายอรุณ แผ้วพันชู และนายสัญญา ไตรรงค์ทอง และทาง อบต.สาคู ได้ออกประกาศให้นายอรุณ และนายสัญญา รื้อถอนอาคารภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ 28 พ.ย.57 ถึงวันที่ 4 ธ.ค.57 ที่ผ่านมา แต่พบว่ายังไม่มีการดำเนินการใดๆ ตามประกาศ ทาง อบต.จึงนำเครื่องมือหนักเข้าดำเนินการรื้อถอนดังกล่าว
ทั้งนี้ ขณะเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการรื้อถอนอาคารทั้ง 2 หลัง พบว่า บริเวณด้านหน้าอาคารร้านเดอะบีช ของนายอรุณ ได้มีการนำรถบรรทุก 10 ล้อ และรถยนต์ประมาณ 8 คัน มาจอดกีดขวางอยู่บริเวณหน้า และด้านข้างของอาคารเพื่อขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่ให้นำรถแบ็กโฮเข้าไปรื้อถอนอาคาร ทาง อบต.สาคูจึงได้ใช้รถยกมายก และลากรถที่จอดกีดขวางดังกล่าวออกไป และนำรถแบ็กโฮเข้าดำเนินการรื้อถอนได้ในที่สุด โดยมีกำลังทหารเรือ ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.สมชาย สรรประเสริฐ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัด และอำเภอถลาง คอยเป็นแรงหนุนดูแลความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้แก่ทาง อบต.สาคู
นายสุรินทร์ โยธารักษ์ รองนายก อบต.สาคู กล่าวว่า ตามเป้าหมายของ อบต.สาคู และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง วันนี้ ( 8 ธ.ค.) มีการรื้อถอน 2 ราย คือ ร้าน เดอะบีช ของนายอรุณ และอาคารของนายสัญญา ซึ่งเป็นรื้อถอนตามนโยบายของ คสช.ในเรื่องของการบุกรุกที่สาธารณะประเภทประชาชนพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน
โดยในรายของนายอรุณ และนายสัญญา นั้น มีการอ้างว่า อาคารของตัวเองไม่ได้อยู่บนที่สาธารณะ ซึ่งมีเอกสาร ส.ค.1 เมื่อทาง อบต.สาคู ไปตรวจสอบพิสูจน์กับทางที่ดิน พบว่า ส.ค.1 ที่นำมากล่าวอ้างนั้น ผลปรากฏว่า ไม่ใช่ที่ดินจุดที่มีการก่อสร้าง ซึ่งที่ดินที่มีการก่อสร้างเป็นที่สาธารณประโยชน์ เมื่อปี พ.ศ.2474 ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ต ได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ มี 2 แปลง คือ แปลงแหลมพิศ และแปลงปากบาง รวมเนื้อที่ 2 แปลง ประมาณ 800 ไร่ ขณะที่ในส่วนของที่ดินของเอกชนที่อยู่นอกเหนือไปจากที่สาธารณะ ปัจจุบันก็เป็นที่ดินที่มีโฉนดกันไปหมดทุกแปลงแล้ว ฉะนั้นพื้นที่ตรงนี้เป็นที่สาธารณะอย่างแน่นอน
นายสุรินทร์ กล่าวต่อไปอีกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับอาคารที่ปลูกสร้างบนที่สาธารณะต้องรื้อถอนทั้งหมด เพื่อเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ยังมีอาคารร้านค้าที่อยู่ในโซนถนนฝั่งตะวันออกที่อยู่ในการพิจารณาของศาล ซึ่งมีการฟ้องคัดค้าน นสล. เมื่อปี พ.ศ.2549 จำนวน 7 ราย แต่มี 4 ราย ยอมรื้อถอนออกไป ทำให้ยังเหลือ 3 ราย รวมกับที่รื้อถอนวันนี้ 2 ราย เป็น 5 ราย โดยในส่วนที่เหลืออยู่ 3 ราย ทาง อบต.และจังหวัดได้หารือข้อกฎหมายไปยัง คสช.ส่วนกลางแล้ว และขณะนี้ทาง อบต.สาคู ก็รอฟังคำตอบจากทาง คสช. ซึ่งยังไม่ได้ตอบกลับมา
ด้านนายอรุณ แผ้วพันชู เจ้าของอาคารร้านเดอะบีช กล่าวว่า ไม่พอใจเจ้าหน้าที่ที่เข้ารื้อถอนอาคารของตน ซึ่งพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) ศาลปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นัดไต่สวนทั้งสองฝ่าย คือ ตน กับทาง อบต.สาคู แต่ ทางอบต.สาคู ชิงรื้อถอนอาคารในวันนี้ แทนที่จะรอไปอีกวันเพื่อให้ศาลได้ไต่สวนก่อน ถึงแม้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จะเห็นด้วยต่อ อบต.สาคู แต่ก็ให้สิทธิไปฟ้องที่ศาลปกครอง ตนก็ได้ไปฟ้องต่อศาลปกครอง เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ก็ควรจะฟังคำไต่สวนของศาลก่อน ถ้าศาลสั่งมาว่าตนผิดปลูกสร้างอาคารในที่สาธารณะ ตนยินดีที่จะรื้อถอนเอง ตรงนี้มองว่าหน่วยงานราชการไม่มีความเป็นธรรม ทำงานไม่ชอบด้วยกฎหมาย