ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต หารือหลายฝ่ายเกี่ยวข้องกรณีการรื้อถอนสถานประกอบการที่ปลูกสร้างรุกหาดในยาง อีก 2 ร้านยังรื้อถอนไม่ได้ หลังผู้อ้างสิทธิครอบครองยื่นอุทรณ์ต่อคณะกรรมการจังหวัด
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัด นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พ.อ.ฐากริน อินทรไข่ และ พ.อ.สมชาย โปนะทอง ในฐานะตัวแทนมณฑลทหารบกที่ 41 พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งผู้แทนจากทัพเรือภาคที่ 3 นายอำเภอถลาง ที่ดินจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบลสาคู และโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด เข้าหารือกรณีที่ยังไม่สามารถรื้อถอนสถานประกอบการที่ปลูกสร้างรุกที่สาธารณะชายหาดในยาง ที่ยังคงเหลืออยู่จำนวน 2 ร้าน ประกอบด้วย ร้านเดอะบีชคลับ และร้านบ้านบุษบา ซึ่งมีนายอรุณ แผ้วพันธ์ชู เป็นเจ้าของ แม้ว่า ศาลจังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่ง ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2557 เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว 2 ร้านดังกล่าวแล้วก็ตาม โดยการประชุมวันนี้ไม่ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หลังการประชุม นายสุรินทร์ โยธารักษ์ รองนายก อบต.สาคู เปิดเผยว่า จังหวัดได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าทวงคืนพื้นที่สาธารณะชายหาดในยางกลับคืนแก่รัฐ โดยให้ยึดหลักกฎหมาย คาดว่าหลังจากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบเรื่องราวแล้วเสร็จ จะได้ข้อสรุปเรื่องการรื้อถอนที่แน่ชัดอีกครั้งภายใน 12 วันนี้ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เตรียมแจ้งความดำเนินคดีอาญาต่อเจ้าของร้านดังกล่าวที่ยังไม่ยอมรื้อถอนอาคารออกจากพื้นที่แล้วเช่นกัน
สำหรับร้านเดอะบีชคลับ และร้านบุษบา ทั้ง 2 ร้าน ถูก 7 หน่วยงาน ซึ่งประกอบด้วย ที่ดิน อำเภอ ป่าไม้ อุทยาน อบต.สาคู ตำรวจ และทหาร ที่ตรวจสอบร่วมกัน ยืนยันว่า ปลูกสร้างอยู่บนพื้นที่สาธารณะ ส่วน ส.ค.หมายเลข 150 ที่เจ้าของร้านนำมาแสดงเป็นหลักฐานการถือครองนั้น ทางที่ดินถลาง ยืนยันว่า ได้ถูกใช้ออกเป็นโฉนดของโรงแรมแห่งหนึ่งไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตามกำหนดเดิมทั้ง 2 ร้านจะต้องมีการรื้อถอนออกไปในวันที่ 26 ก.ย. แต่ก่อนวันครบกำหนดรื้อถอนเพียง 1 วัน คือ วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่าน ศาลจังหวัดภูเก็ต ได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้แก่ร้านดังกล่าว โดยไม่ได้ให้เหตุผลประกอบ แต่เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดภูเก็ต ได้มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวฉบับดังกล่าวอีกครั้ง พร้อมกับคืนอำนาจให้แก่ อบต.สาคู เข้าไปดำเนินการตามกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากศาลพิสูจน์ได้ว่า ผู้ร้องคือ นายอรุณ ปกปิดข้อเท็จจริงโดยไม่แจ้งต่อศาลว่าอาคารดังกล่าวอยู่ในที่สาธารณะ ทำให้ศาลหลงเชื่อ จึงต้องเพิกถอนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
ซึ่งหลังจากที่ศาลเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ทาง อบต.สาคู ก็กำหนดให้วันที่ 7 พ.ย.เป็นวันที่จะเข้าไปรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง แต่ก็ไม่สามารถรื้อถอนได้เนื่องจากมีการอ้างว่าทางผู้ครอบครองกำลังอยู่ระหว่างการยื่นอุทรณ์ จนเป็นที่มาของการประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัด นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พ.อ.ฐากริน อินทรไข่ และ พ.อ.สมชาย โปนะทอง ในฐานะตัวแทนมณฑลทหารบกที่ 41 พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งผู้แทนจากทัพเรือภาคที่ 3 นายอำเภอถลาง ที่ดินจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบลสาคู และโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด เข้าหารือกรณีที่ยังไม่สามารถรื้อถอนสถานประกอบการที่ปลูกสร้างรุกที่สาธารณะชายหาดในยาง ที่ยังคงเหลืออยู่จำนวน 2 ร้าน ประกอบด้วย ร้านเดอะบีชคลับ และร้านบ้านบุษบา ซึ่งมีนายอรุณ แผ้วพันธ์ชู เป็นเจ้าของ แม้ว่า ศาลจังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่ง ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2557 เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว 2 ร้านดังกล่าวแล้วก็ตาม โดยการประชุมวันนี้ไม่ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หลังการประชุม นายสุรินทร์ โยธารักษ์ รองนายก อบต.สาคู เปิดเผยว่า จังหวัดได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าทวงคืนพื้นที่สาธารณะชายหาดในยางกลับคืนแก่รัฐ โดยให้ยึดหลักกฎหมาย คาดว่าหลังจากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบเรื่องราวแล้วเสร็จ จะได้ข้อสรุปเรื่องการรื้อถอนที่แน่ชัดอีกครั้งภายใน 12 วันนี้ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เตรียมแจ้งความดำเนินคดีอาญาต่อเจ้าของร้านดังกล่าวที่ยังไม่ยอมรื้อถอนอาคารออกจากพื้นที่แล้วเช่นกัน
สำหรับร้านเดอะบีชคลับ และร้านบุษบา ทั้ง 2 ร้าน ถูก 7 หน่วยงาน ซึ่งประกอบด้วย ที่ดิน อำเภอ ป่าไม้ อุทยาน อบต.สาคู ตำรวจ และทหาร ที่ตรวจสอบร่วมกัน ยืนยันว่า ปลูกสร้างอยู่บนพื้นที่สาธารณะ ส่วน ส.ค.หมายเลข 150 ที่เจ้าของร้านนำมาแสดงเป็นหลักฐานการถือครองนั้น ทางที่ดินถลาง ยืนยันว่า ได้ถูกใช้ออกเป็นโฉนดของโรงแรมแห่งหนึ่งไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตามกำหนดเดิมทั้ง 2 ร้านจะต้องมีการรื้อถอนออกไปในวันที่ 26 ก.ย. แต่ก่อนวันครบกำหนดรื้อถอนเพียง 1 วัน คือ วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่าน ศาลจังหวัดภูเก็ต ได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้แก่ร้านดังกล่าว โดยไม่ได้ให้เหตุผลประกอบ แต่เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดภูเก็ต ได้มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวฉบับดังกล่าวอีกครั้ง พร้อมกับคืนอำนาจให้แก่ อบต.สาคู เข้าไปดำเนินการตามกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากศาลพิสูจน์ได้ว่า ผู้ร้องคือ นายอรุณ ปกปิดข้อเท็จจริงโดยไม่แจ้งต่อศาลว่าอาคารดังกล่าวอยู่ในที่สาธารณะ ทำให้ศาลหลงเชื่อ จึงต้องเพิกถอนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
ซึ่งหลังจากที่ศาลเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ทาง อบต.สาคู ก็กำหนดให้วันที่ 7 พ.ย.เป็นวันที่จะเข้าไปรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง แต่ก็ไม่สามารถรื้อถอนได้เนื่องจากมีการอ้างว่าทางผู้ครอบครองกำลังอยู่ระหว่างการยื่นอุทรณ์ จนเป็นที่มาของการประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้