ฉาวอีก! ครูสาวเชียงรายโร่ร้อง ถูก ผอ.บุกปล้ำ “วันครู” แจ้งความ-บอกต้นสังกัดแล้วเรื่องเงียบ

เชียงราย - แวดวงครูเชียงรายเกิดเรื่องฉาวอีก หลังครูสาวโรงเรียนเทศบาลชายแดนเชียงแสนร้องทั้งผู้ว่าฯ-ศูนย์ดำรงธรรม-องค์กรเอกชน ถูก ผอ.บุกปล้ำหมายข่มขืนคาห้องน้ำระหว่างร่วมงานเลี้ยงวันครู เผยร้องเทศบาลต้นสังกัด-แจ้งความแล้วเรื่องไม่คืบ แถมเทศบาลทำเรื่องพิลึกซ้ำ

วันนี้ (3 ก.พ.) น.ส.ไก่ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ครูจ้างสอนวิชาคณิตศาสตร์ ระดับ ป.1 ป.3 ป.4 และวิชาศิลปะชั้น ป.6 โรงเรียนเทศาบาลแห่งหนึ่งใน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เข้าร้องทุกข์ต่อ น.ส.วาสนา ภัทรนันทกุล ผู้จัดการโครงการกฎหมายบ้านปลาดาวเชียงราย ซึ่งเป็นองค์กรเอกชน ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย

น.ส.ไก่ระบุว่าถูกผู้อำนวยการโรงเรียนปลุกปล้ำและลวนลาม ซึ่งได้ไปแจ้งความดำเนินคดี และร้องเรียนต่อหลายหน่วยงานแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า จึงเข้าร้องต่อองค์กรเอกชน โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ทางโรงเรียนจัดให้มีงานวันครู ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย ซึ่งเป็นอำเภอข้างเคียงกับ อ.เชียงแสน จากนั้นช่วงเย็นมีการจัดงานเลี้ยง

ช่วงใกล้เลิกงาน ตนได้เข้าไปห้องน้ำภายในโรงเรียนตามลำพัง ขณะกำลังเดินเข้าไปในห้องน้ำ ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ตนสังกัดอยู่ได้ตามมาโดยไม่รู้ตัว จากนั้นได้ผลักและดันตนให้เข้าไปในห้องน้ำก่อนปิดประตูจนทำให้ตนมีแผลฟกช้ำตามตัว แล้วพยายามข่มขืนตน

แต่ตนได้ขัดขืนจึงเกิดการยื้อกันทำให้ตนเปียกน้ำในห้องน้ำ และเมื่อเห็นว่าสู้แรงผู้ชายไม่ไหวจึงทำทีหลอกล่อว่าไม่ควรมีเพศสัมพันธ์กันในห้องน้ำ แต่ควรไปที่อื่นจะดีกว่า ทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนถามย้ำหลายครั้งว่าจะยอมให้หลับนอนด้วยกันจริงหรือไม่ เมื่อตนทำทีตอบว่ายอม ผู้อำนวยการโรงเรียนจึงยอมผ่อนแรงที่ฉุดรั้งลง ตนจึงถือโอกาสเปิดประตูวิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็ว

“ช่วงนั้น ผอ.ยังพยายามจะฉุดมือเอาไว้ แต่ประจวบเหมาะกับเพื่อนครูอีกคนที่เดินทางไปด้วยกันเดินผ่านมา จึงแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้รู้ ซึ่งแต่ละคนก็ตกใจกับสภาพที่เปียกปอน จึงพากันเดินทางกลับ”

ครูสาวกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้ไปร้องเรียนต่อผู้บริหารเทศบาลแต่เรื่องก็เงียบ จึงไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.แม่สาย ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้อำนวยการโรงเรียน ข้อหากระทำลวนลาม ที่ สภ.แม่สาย เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ร้องเรียนก็ยังฝืนทำงานอยู่ที่โรงเรียนกับผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าว โดยพยายามไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ตนรู้สึกว่าถูกละเมิดศักดิ์ศรีและอับอายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลัวจะถูกมองว่าไปให้ท่าหรือสมยอม จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด องค์กรเอกชนต่างๆ เพราะไม่มีความคืบหน้าทางคดี และอยากกู้ศักดิ์ศรีคืนมา รวมทั้งไม่อยากให้เกิดกรณีนี้ขึ้นกับครูหรือหญิงสาวคนอื่นอีก

“เทศบาลต้นสังกัดก็มีเรื่องแปลกเกิดขึ้น เพราะหลังจากที่ร้องเรียนเรื่องนี้ต่อผู้บริหารเทศบาลก็มีคำสั่งจากนายกเทศมนตรี ลงวันที่ 23 ม.ค.ให้ย้าย ผอ.โรงเรียนไปประจำสำนักงานเทศบาล และให้รองปลัดเทศบาลมารักษาราชการแทน แต่ปรากฏในวันที่ 23 ม.ค. ก็มีคำสั่งจากนายกเทศมนตรีให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว จึงเชื่อว่าคนเหล่านี้น่าจะรู้จักมักคุ้นกัน จึงตัดสินใจร้องต่อองค์กรเอกชนอีกทางหนึ่ง”

น.ส.ไก่กล่าวว่า ตามปกติหากเกิดกรณีนี้จะมีการตรวจสอบจากท้องถิ่น แต่ปรากฏว่ากรณีนี้กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ เลย เพราะตนก็ยังไม่ถูกเรียกไปสอบปากคำ

ด้าน น.ส.วาสนากล่าวว่า โครงการจะรับดูแลกรณีนี้ไว้ และช่วยติดตามด้านข้อกฎหมาย ระเบียบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่ประสบความเดือดร้อน เพราะที่ผ่านมาได้คลุกคลีกับคดีความในลักษณะนี้มามาก และพบว่ามีการลวนลาม กระทำชำเรากันหลายราย แต่หลายครั้งที่เรื่องราวจะเงียบไปเพราะฝ่ายหญิงไม่อยากมีเรื่อง อับอาย เกรงกลัว ถูกกดดัน ถูกข่มขู่ หรือมีการต่อรองด้านเงินทองค่าเสียหาย จึงทำให้หญิงสาวที่มีความเสี่ยงจะถูกกระทำยังคงถูกผู้ชายที่มีพฤติกรรมไม่ดีกระทำอยู่เรื่อยมา

“ขอตั้งข้อสังเกตว่ากรณีนี้หากเป็นจริงก็น่าที่จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง หากพบว่ามีมูลก็มีคำถามไปถึงคนระดับผู้อำนวยการโรงเรียนว่าเหมาะสมกับตำแหน่งนี้หรือไม่ด้วย”