กำแพงเพชร - ครูสาวอัตราจ้างจากพิษณุโลก บุกถึงจังหวัดกำแพงเพชร ร้องต้นสังกัดเร่งรัดคดีครูหนุ่มแฟนเก่าโพสต์ภาพโป๊-อนาจารบนเฟซบุ๊ก แถมข่มขู่ซ้ำ พร้อมเปิดใจยอมอับอาย ขอเดินหน้าเอาผิดจนถึงที่สุด บอกเหลืออดแล้ว
เย็นวันนี้ (7 ม.ค.) น.ส.อ่าง (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ครูสาวอัตราจ้างโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายสุดเขต สวยสม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41 และนายธิติวัฒน์ สิริโรจนรัตน์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ ปภ.จังหวัดกำแพงเพชร ช่วยราชการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41 ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร และเตรียมยื่นหนังสือดังกล่าวให้กับนายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร และนายทวินทร์ อุดมสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 2 กำแพงเพชร เพื่อขอให้ติดตามและเร่งรัดดำเนินคดีอาญา และดำเนินการทางวินัยต่อ “นาย พ.” อายุ 30 ปี ข้าราชครูปฏิบัติงานช่วยราชการที่โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 2 กำแพงเพชร โดยนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำเนาภาพหน้าจอเฟซบุ๊ก ที่เป็นภาพข้อความและภาพถ่ายอย่างละ 1 ชุด
น.ส.อ่างได้ระบุในหนังสือว่า ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากครูหนุ่มคนดังกล่าว ได้เผยแพร่ภาพโป๊ เปลือย อนาจาร เป็นภาพถ่ายขณะมีเพศสัมพันธ์กันระหว่างตนกับครูหนุ่มคนดังกล่าวลงในเฟซบุ๊ก เพื่อประจานและข่มขู่ตน ทำให้ตนอับอาย เสื่อมเสียชื่อเสียง และศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิง รวมถึงเสื่อมเสียเกียรติยศวงศ์ตระกูลของตนอีกด้วย จึงได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือให้ช่วยติดตามและเร่งรัดดำเนินคดี ทั้งทางอาญาแผ่นดิน และระเบียบวินัยราชการครู เพราะครูหนุ่มคนดังกล่าว ได้อวดอ้างว่า มีผู้ใหญ่คอยให้ความช่วยเหลือ ไม่เกรงกลัวการถูกดำเนินคดีใดๆ
น.ส.อ่างยังได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ได้รู้จักคบหากับครูหนุ่มมาก่อนหน้านี้ โดยครูหนุ่มได้หลอกว่ายังไม่มีพันธะครอบครัวใดๆ และเคยพาตนไปพบกับครอบครัวที่บ้านในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร จนตนเชื่อใจและมอบความรักให้กับครูหนุ่มคนดังกล่าวจริง แต่เมื่อประมาณ 1 เดือนต่อมา ตนได้ทราบความจริงว่าครูหนุ่มมีภรรยาและลูกสาวอยู่แล้ว ด้วยความที่ไม่อยากให้เกิดปัญหาและเคยบอกให้ครูหนุ่มเลือก แต่ก็ไม่ดำเนินการใดๆ ได้แต่บอกขอเวลาหน่อย เพราะเลือกใครไม่ได้ ตนจึงคิดจะเป็นฝ่ายไปเสียเองจะดีกว่าเพราะมาทีหลัง เมื่อหมดสัญญาจ้างจึงไปอยู่ที่กรุงเทพมหานครได้ระยะหนึ่งและได้กลับมาทำงานครูเหมือนเดิมเมื่อเร็วๆ นี้ ครูหนุ่มก็เริ่มติดต่อมาและเริ่มรุกราน หึงหวง ด้วยถ้อยคำทั้งทางโทรศัพท์และโพสต์ในเฟซบุ๊กของตนเอง และกลุ่มเพื่อนด้วยถ้อยคำหยาบคาย
“ฉันพยายามพูดจาหว่านล้อมดีๆ ให้เลิกยุ่งเกี่ยวกัน ต่างคนต่างอยู่ และให้ครูหนุ่มไปมีความสุข ดูแลครอบครัวของตนเองดีๆ พยายามบอกว่าตนเองมีคนรักใหม่แล้วเช่นกัน แต่สถานการณ์กลับยิ่งรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการโพสต์ข้อความและรูปภาพในเฟซบุ๊กตามที่เป็นข่าว จนตนหมดความอดทน ปรึกษากับครอบครัวและเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับครูหนุ่มให้ถึงที่สุด แม้จะต้องอับอายเพียงใดก็ตาม”
ด้านนายสุดเขต สวยสม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41 กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจ และทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41 ได้รายงานให้ผู้บริหารทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ล่าสุดได้มีการแต่งตั้งนิติกร 2 คนให้สืบข้อมูลข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เร่งดำเนินการทางด้านวินัยต่อครูหนุ่มคู่กรณีแล้ว ต้องดูว่าเข้าข่ายถึงขั้นไหน ลดขั้นเงินเดือน ตัดเงินเดือน ปลดออก หรือไล่ออก นอกจากนี้ยังมีกรณีจรรยาบรรณวิชาชีพครู เปรียบเสมือนใบประกอบโรคศิลปะ ถ้าถูกยกเลิก ก็จะพ้นสภาพความเป็นครูไปโดยปริยาย
“จะประสานทางต้นสังกัดและเพื่อนร่วมงานของครูสาวให้เห็นอกเห็นใจ และเข้าใจในความเป็นผู้หญิง ขออย่าให้มีปัญญาเรื่องงานในหน้าที่อีกครั้งด้วย”
นายธิติวัฒน์ สิริโรจนรัตน์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกำแพงเพชร ช่วยราชการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยด้วยว่า ทางจังหวัดฯได้ดำเนินการกรณีที่ผู้เสียหายถูกข่มขู่คุกคาม เพราะผู้เสียหายเล่าว่าครูหนุ่มคนดังกล่าวชอบโชว์ว่ามีอาวุธปืนที่ได้มาจากสวัสดิการครูอยู่ด้วย อาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้น กรณีนี้อาจต้องใช้กฎหมายพิเศษ ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทหารให้เข้าไปดูแล ร่วมตรวจสอบ โดยได้รายงานเป็นเรื่องด่วนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร รับทราบข้อมูลที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะดำเนินการต่อไป
