พิษณุโลก - ชาวนาบางระกำตามทวงเงินค่าข้าวไรซ์เบอร์รีถึงโรงสี หลังนายทุนชวนปลูก พร้อมรับปากซื้อตันละ 13,000 บาท สุดท้ายถูกหักความชื้นเหลือตันละ 11,000 บาทไม่พอ ผ่านไปครึ่งปีก็ยังไม่ได้เงินอีก
วันนี้ (2 ก.พ.) นายวินัย ครุฑพาหะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 4 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ตัวแทนชาวนาผู้ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี พร้อมด้วยชาวนาบ้านหนองกุลา 30 ราย มาทวงถามเงินค่าข้าวไรซ์เบอร์รี ที่ได้ขายให้ทางโรงสีท่าข้าววังเป็ดเกษตรยนต์ เลขที่ 160/1 หมู่ 2 ต.บางระกำ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 57 แต่ผ่านมา 6 เดือนแล้วก็ยังไม่ได้รับเงิน
นางเฉลิม อยู่พ่วง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/2 ม.18 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หนึ่งในเกษตรกรที่ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี กล่าวว่า เมื่อเดือน มิ.ย. 57 นายอัมพร พลท้าว นายหน้ารับซื้อข้าวไรซ์เบอร์รี ได้มาชักชวนตนพร้อมกับเพื่อนบ้านอีก 30 กว่ารายให้ร่วมลงทุนปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี และตกลงว่าจะรับซื้อข้าวไรซ์เบอร์รีเองในราคาสูงถึงเกวียนละ 13,000 บาท
หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตไปเมื่อ ส.ค. 57 ที่ผ่านมา นายอัมพรได้นำข้าวไรซ์เบอร์รีมาฝากขายไว้ที่โรงสีท่าข้าววังเป็ดเกษตรยนต์ แต่สุดท้ายทางโรงสีหักค่าความชื้นข้าวเหลือเกวียนละ 11,000 บาท แต่ก็ยังไม่สามารถจ่ายเงินให้ชาวนาได้ โดยอ้างว่าโรงสีต้องจำหน่ายข้าวไรซ์เบอร์รีที่มีอยู่ในโกดัง 600 ตันให้หมดก่อนจึงจะสามารถจ่ายเงินให้ได้ ซึ่งทำให้ตนเอง และชาวนาที่ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รีได้รับความเดือดร้อน เพราะมีภาระต้องใช้จ่ายในครอบครัว ค่าหนี้สิน ค่าปุ๋ย ค่ายา ที่ลงทุนปลูกข้าวไรซ์เบอร์รีไปเป็นจำนวนมาก
ต่อมา นายดิเรก ยิ้มห้อย เกษตรอำเภอบางระกำ พร้อมด้วยนายกฤษฏิ์ สิทธิยศ ปลัดอำเภอบางระกำ ได้เดินทางมารับเรื่อง พร้อมกับชี้แจงว่าขณะนี้มีเกษตรกร อ.บางระกำ กว่า 100 รายที่ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รีตามคำชักชวนของนายอัมพร พลท้าว อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1044 ม.2 ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก คิดเป็นพื้นที่ 2,000 ไร่ จากนั้นได้นำข้าวมาฝากขายไว้กับทางโรงสีทั้งสิ้น 600 ตัน และได้ติดต่อหาพ่อค้ามารับซื้อข้าวไรซ์เบอร์รีแล้ว 200 ตัน แต่ยังเหลือข้าวอีก 400 ตันที่ยังขายออกไม่ได้ จึงไม่สามารถจ่ายเงินให้ชาวนาได้ทั้งหมด
ซึ่งขณะนี้ทางเกษตรอำเภอได้รับเรื่องร้องทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังต้องรอเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รีอีกบางส่วนที่ยังไม่ได้นำเอกสารมายื่นต่อทางเกษตรอำเภอ ว่าได้ลงทุนปลูกข้าวไรซ์เบอร์รีขายให้นายอัมพรจำนวนเท่าใด ถ้าหากได้เอกสารครบทุกอย่างแล้ว และสามารถหาตลาดมารับซื้อข้าวไรซ์เบอร์รีที่เหลืออยู่ก็จะสามารถดำเนินการจ่ายเงินให้แก่ชาวนาได้ทันที
จึงอยากขอเตือนเกษตรกรที่คิดจะลงทุนปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี ให้เข้ามาปรึกษากับทางเกษตรอำเภอก่อน เนื่องจากจะได้ดูเอกสารสัญญา และควบคุมเรื่องคุณภาพข้าว หรือตลาดที่รับซื้ออย่างแน่นอน ไม่ใช่เห็นมีการชักชวนให้ปลูกเพราะได้ราคาดีก็รีบปลูกข้าวขายกัน จนสุดท้ายข้าวก็มากองรวมกันอยู่ที่โรงสีจำนวนมาก และหาผู้รับซื้อไม่ได้ จนเกิดเป็นปัญหาตามมา