นครปฐม - ตำรวจใช้กลยุทธ์ทุกวิธีเชิงรุก และติดตามล่า “ฆาตกรกามวิปริต” ขณะ “ผู้ช่วย ผบ.ตร.” ประสานกองปราบ สอบสวนกลาง ตร.ภูธรภาค 7 ใช้กำลังเต็มอัตราทำงาน 24 ชั่วโมงไล่ล่าตัวให้ได้ ล่าสุด ชาวนครชัยศรี ตื่นพบชายคล้ายคนร้ายขี่จักรยานเข้าบ้านคนแก่เป็นใบ้ แต่หลบหนีไปได้ก่อนตำรวจมาถึง ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบสวนเผยคนร้ายสุดฉลาด ไม่ใช่ธรรมดา ก่อเหตุลอยนวลยาว 5 ปี มีทักษะในการพรางตัวดี
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่ชั้น 5 ศูนย์อบรมตำรวจกลาง ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ซึ่งตั้งเป็นศูนย์วอร์รูมรับข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานงานและติดตามไล่ล่าฆาตกรกามวิปริต ที่ก่อเหตุข่มขืนผู้สุงวัยอย่างต่อเนื่องมาร่วม 10 คดี ตั้งแต่ปี 2553-58 โดยมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เป็นหัวหน้าชุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่กันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อค้นหาข้อมูล และติดตามไล่ล่าคนร้ายอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้รับแจ้งว่า ที่บ้านติดคลองเชื่อมกับแม่น้ำนครชัยศรี ได้มีชายลักษณะต้องสงสัยขี่รถจักรยานมาจอดที่ริมคลองเพื่อจะเดินเข้าบ้านของหญิงชราพิการไม่สามารถพูดได้ ที่คลองวัดกลางบางแก้ว หมู่ 1 ต.บางกระเบา อ.นครชัยศรี
หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.ไชยศ มุกดาหาร รอง ผกก.ป.สภ.นครชัยศรี พร้อมกำลังตำรวจทั้งสายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ทันที เมื่อไปถึงพบว่า คนร้ายได้วิ่งหนีลงน้ำก่อนข้ามคลองหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทำการปิดล้อมพื้นที่นานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบตัวคนร้าย คาดว่าคนร้ายจะคงหนีไปในช่วงที่ชาวบ้านจะมาช่วยกันจับตัวก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง โดยพบรถจักรยานสีน้ำเงินจอดทิ้งไว้ที่หลังวัดกลางบางแก้ว
ด้าน พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ตอนนี้มีคนโทร.แจ้งเข้ามาที่ 191 มากมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังรับแจ้งก็จะออกไปตรวจสอบทั้งหมด แต่ก็ได้มีคนบางกลุ่มโทร.มาป่วนเจ้าหน้าที่ในเวลาทำงานมากอยู่พอสมควร ตรงนี้จึงอยากขอความร่วมมือต่อประชาชนว่า อย่าได้โทร.มาป่วนเจ้าหน้าที่ในช่วงนี้ เพราะจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายมากขึ้น
ด้าน พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี สภ.สามพราน และ สภ.พุทธมณฑล ลงพิ้นที่ติดกริ่งสัญญาณให้แก่บ้านเรือนที่เป็นสวนที่อยู่ริมคลองเปลี่ยวแล้ว โดยพบว่า มีหญิงชราอยู่คนเดียวในบ้านกว่า 154 ครัวเรือน จึงได้ให้นำไซเรนสัญญาณไปติดตั้งแบบ “บางคนที โมเดล” และประสานกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในการหาประวัติ และทะเบียนบ้านทุกหลังมาทำประวัติ และส่งทีมลงพื้นที่แบบเดินเท้าทุกตารางนิ้ว รวมถึงการใช้เรือสำรวจในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ส่วนทางบกได้เข้าตรวจสอบคนงาน คนสวนทุกพื้นที่แบบพลิกแผ่นดินเพื่อต้องการหาตัวคนร้ายมาให้ได้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงผู้เชี่ยวชาญในการสืบสวนนายหนึ่งได้ให้ข้อคิดว่า คนร้ายไม่ใช่คนโง่ หรือสติไม่ดี และมีความฉลาดหลักแหลมพอตัว เพราะก่อเหตุมาแล้ว 5 ปี แต่ยังไม่มีใครพบตัวจริง และที่น่าสังเกต คนร้ายน่าจะเป็นคนที่ช่ำชองในเรื่องของการเดินในสวน ท้องนา ในเวลากลางคืนได้เป็นอย่างดี แม้จะไม่เป็นคนในพื้นที่ แต่ก็เข้าใจภูมิศาสตร์ลักษณะนี้ และการเข้าสังเกตเป้าหมายน่าจะทำในเวลากลางวันสังเกตว่าบ้านหลังนี้มีหญิงชราไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน หรือกลางคืนจะอยู่คนเดียว มีบ้านเปลี่ยวมืด อาจจะรับจ้างงานสวนที่มีลักษณะพื้นที่เหมือนๆ กันทั้ง 3 จังหวัด และรู้จักการวางแผนก่อนลงมือ
“คนร้ายใจกล้ามาก เพราะเมื่อลงมือแล้วก็มีความมั่นใจมาก เพราะเดินหน้าเข้าใส่เหยื่ออย่างเดียว และมีความเข้าใจทางงานช่างไฟฟ้า งานไม้งัดแงะต่างๆ ซึ่งไม่ใช่คนโง่ เป้นคนมีความรู้คนหนึ่งที่รู้จักการพรางตัวในเวลากลางวัน และกลางคืน โดยที่คนแต่ละพื้นที่ไม่มีใครสนใจ โดยที่การจับตัวได้ยากนั้นเป็นเพราะการพรางตัวที่ดีนั่นเอง” ผู้เชี่ยวชาญในการสืบสวน กล่าว
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่ชั้น 5 ศูนย์อบรมตำรวจกลาง ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ซึ่งตั้งเป็นศูนย์วอร์รูมรับข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานงานและติดตามไล่ล่าฆาตกรกามวิปริต ที่ก่อเหตุข่มขืนผู้สุงวัยอย่างต่อเนื่องมาร่วม 10 คดี ตั้งแต่ปี 2553-58 โดยมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เป็นหัวหน้าชุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่กันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อค้นหาข้อมูล และติดตามไล่ล่าคนร้ายอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้รับแจ้งว่า ที่บ้านติดคลองเชื่อมกับแม่น้ำนครชัยศรี ได้มีชายลักษณะต้องสงสัยขี่รถจักรยานมาจอดที่ริมคลองเพื่อจะเดินเข้าบ้านของหญิงชราพิการไม่สามารถพูดได้ ที่คลองวัดกลางบางแก้ว หมู่ 1 ต.บางกระเบา อ.นครชัยศรี
หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.ไชยศ มุกดาหาร รอง ผกก.ป.สภ.นครชัยศรี พร้อมกำลังตำรวจทั้งสายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ทันที เมื่อไปถึงพบว่า คนร้ายได้วิ่งหนีลงน้ำก่อนข้ามคลองหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทำการปิดล้อมพื้นที่นานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบตัวคนร้าย คาดว่าคนร้ายจะคงหนีไปในช่วงที่ชาวบ้านจะมาช่วยกันจับตัวก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง โดยพบรถจักรยานสีน้ำเงินจอดทิ้งไว้ที่หลังวัดกลางบางแก้ว
ด้าน พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ตอนนี้มีคนโทร.แจ้งเข้ามาที่ 191 มากมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังรับแจ้งก็จะออกไปตรวจสอบทั้งหมด แต่ก็ได้มีคนบางกลุ่มโทร.มาป่วนเจ้าหน้าที่ในเวลาทำงานมากอยู่พอสมควร ตรงนี้จึงอยากขอความร่วมมือต่อประชาชนว่า อย่าได้โทร.มาป่วนเจ้าหน้าที่ในช่วงนี้ เพราะจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายมากขึ้น
ด้าน พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี สภ.สามพราน และ สภ.พุทธมณฑล ลงพิ้นที่ติดกริ่งสัญญาณให้แก่บ้านเรือนที่เป็นสวนที่อยู่ริมคลองเปลี่ยวแล้ว โดยพบว่า มีหญิงชราอยู่คนเดียวในบ้านกว่า 154 ครัวเรือน จึงได้ให้นำไซเรนสัญญาณไปติดตั้งแบบ “บางคนที โมเดล” และประสานกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในการหาประวัติ และทะเบียนบ้านทุกหลังมาทำประวัติ และส่งทีมลงพื้นที่แบบเดินเท้าทุกตารางนิ้ว รวมถึงการใช้เรือสำรวจในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ส่วนทางบกได้เข้าตรวจสอบคนงาน คนสวนทุกพื้นที่แบบพลิกแผ่นดินเพื่อต้องการหาตัวคนร้ายมาให้ได้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงผู้เชี่ยวชาญในการสืบสวนนายหนึ่งได้ให้ข้อคิดว่า คนร้ายไม่ใช่คนโง่ หรือสติไม่ดี และมีความฉลาดหลักแหลมพอตัว เพราะก่อเหตุมาแล้ว 5 ปี แต่ยังไม่มีใครพบตัวจริง และที่น่าสังเกต คนร้ายน่าจะเป็นคนที่ช่ำชองในเรื่องของการเดินในสวน ท้องนา ในเวลากลางคืนได้เป็นอย่างดี แม้จะไม่เป็นคนในพื้นที่ แต่ก็เข้าใจภูมิศาสตร์ลักษณะนี้ และการเข้าสังเกตเป้าหมายน่าจะทำในเวลากลางวันสังเกตว่าบ้านหลังนี้มีหญิงชราไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน หรือกลางคืนจะอยู่คนเดียว มีบ้านเปลี่ยวมืด อาจจะรับจ้างงานสวนที่มีลักษณะพื้นที่เหมือนๆ กันทั้ง 3 จังหวัด และรู้จักการวางแผนก่อนลงมือ
“คนร้ายใจกล้ามาก เพราะเมื่อลงมือแล้วก็มีความมั่นใจมาก เพราะเดินหน้าเข้าใส่เหยื่ออย่างเดียว และมีความเข้าใจทางงานช่างไฟฟ้า งานไม้งัดแงะต่างๆ ซึ่งไม่ใช่คนโง่ เป้นคนมีความรู้คนหนึ่งที่รู้จักการพรางตัวในเวลากลางวัน และกลางคืน โดยที่คนแต่ละพื้นที่ไม่มีใครสนใจ โดยที่การจับตัวได้ยากนั้นเป็นเพราะการพรางตัวที่ดีนั่นเอง” ผู้เชี่ยวชาญในการสืบสวน กล่าว