ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากทุกหน่วยงานร่วมเปิดตู้สินค้าจาก สปป.ลาว ที่เหลือทั้งหมด 24 ตู้ หลังจากมีการหารือจากทุกฝ่าย พร้อมเร่งตรวจพิสูจน์
วันนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ท่าเทียบเรือ A0 ท่าเรือแหลมฉบัง ตืดตามความคืบหน้าการเปิดตู้สินค้าจาก สปป.ลาว หลังจากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสินค้านำเข้ามาจาก สปป.ลาว จำนวน 30 ตู้ ของบริษัททรัพย์ธนาทรานสปอร์ต จำกัด ที่ได้ดำเนินการขนส่งสินค้าผ่านแดนจาก สปป.ลาว เข้ามาทางด่านศุลกากรเขมราฐ จ.อุบลราชธานี ไปขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อนำส่งไปยังประเทศจีน
โดยมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีสินค้าที่ผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ จึงนำเข้าตรวจสอบภายในตู้สินค้าที่ศูนย์เอกซเรย์ ศุลกากรแหลมฉบัง หลังมีการเปิดตู้ต้องสงสัย จำนวน 6 ตู้ พบสินค้าภายในตู้ไม่ต้องกับเอกสารที่สำแดงต่อทางศุลกากรจำนวนหลายรายการ รวมทั้งไม้ที่คาดว่าจะเป็นไม้พะยูง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญของกรมป่าไม้
ล่าสุด วันนี้ (29 ม.ค.) เจ้าหน้าที่จากทุกส่วนที่เกี่ยวข้องการเปิดตู้สินค้าจากของกลางจาก สปป.ลาว ได้ร่วมกันเปิดตู้สินค้าทั้ง 24 ตู้ที่เหลือ ซึ่งจากเดิมมีแผนว่าจะทำการเปิด 9 ตู้ในวันนี้ก่อน ซึ่งพบว่า มีข้อผิดสังเกตมากที่สุด แต่เนื่องจากมีการหารือกันจากทุกฝ่าย และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา รวมทั้งสถานที่ไม่เอื้ออำนวยในการจัดเก็บตู้สินค้า เนื่องจากวันนี้ได้นำตู้สินค้าทั้งหมดมาไว้ที่ลานแผนกช่างกล ท่าเรือแหลมฉบัง เนื่องจากท่าเทียบเรือ A0 ต้องการใช้พื้นที่ในการให้บริการลูกค้า
ด้าน นายจักรกฤษณ์ แสงกุหลาบ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงานกรมป่าไม้ กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกันเมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) เรื่องการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัททรัพย์ธนา ทรานสปอร์ต จำกัด ระหว่างเจ้าหน้าที่กรมศุล กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และผู้แทนจากเจ้าของสินค้า
โดยมติที่ประชุมให้ดำเนินการคือ 1.ให้กรมป่าไม้เป็นหลักในการตรวจสินค้า เช่น ตรวจวัดปริมาตรขนาดจำนวนไม้ และประเภทของไม้ 2.ทาง DSI ขอดำเนินการตรวจสอบตู้สินค้าทั้งหมด 30 ตู้โดยขอความร่วมมือจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง 3.เร่งดำเนินการกับตู้สินค้า 6 ตู้ที่เปิดแล้วโดยเร็วเพื่อลดภาระของท่า AO และ 4.DSI จะดำเนินการในเรื่องของคดี เพราะเป็นหน่วยงานที่อายัดสินค้าตั้งแต่เริ่มต้น
ส่วนศุลกากร จะดำเนินการเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายของศุลกากร หากถูกต้องศุลกากรจะดำเนินพิธีกรมศุลกากรในส่งออกให้ตามระเบียบ ส่วนของที่ผิด ถ้าส่งออกไม่ได้ DSI ต้องแจ้งข้อกล่าวหาทำคดี โดยศุลกากร จะเก็บรักษาของกลางในฐานะผู้ดูแลของกลางจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ แต่อย่างไรก็ตาม หากผิดหรือไม่ผิดทางศุลกากรจะประสาน DSI เพื่อขอความเห็นและยินยอม ก่อนจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นายจักรกฤษณ์ กล่าวต่อว่า ในการตรวจสอบครั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วันจะแล้วเสร็จ เนื่องจากจะต้องนำไม้ที่อยู่ภายในตู้ออกมาเพื่อตรวจสอบหากตรงตามใบเอกสารก็จะนำกลับไปไว้ในตู้เช่นเดิม แต่หากผิด และไม่ตรงตามใบเอกสารก็ต้องดำเนินการอายัด และดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
วันนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ท่าเทียบเรือ A0 ท่าเรือแหลมฉบัง ตืดตามความคืบหน้าการเปิดตู้สินค้าจาก สปป.ลาว หลังจากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสินค้านำเข้ามาจาก สปป.ลาว จำนวน 30 ตู้ ของบริษัททรัพย์ธนาทรานสปอร์ต จำกัด ที่ได้ดำเนินการขนส่งสินค้าผ่านแดนจาก สปป.ลาว เข้ามาทางด่านศุลกากรเขมราฐ จ.อุบลราชธานี ไปขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อนำส่งไปยังประเทศจีน
โดยมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีสินค้าที่ผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ จึงนำเข้าตรวจสอบภายในตู้สินค้าที่ศูนย์เอกซเรย์ ศุลกากรแหลมฉบัง หลังมีการเปิดตู้ต้องสงสัย จำนวน 6 ตู้ พบสินค้าภายในตู้ไม่ต้องกับเอกสารที่สำแดงต่อทางศุลกากรจำนวนหลายรายการ รวมทั้งไม้ที่คาดว่าจะเป็นไม้พะยูง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญของกรมป่าไม้
ล่าสุด วันนี้ (29 ม.ค.) เจ้าหน้าที่จากทุกส่วนที่เกี่ยวข้องการเปิดตู้สินค้าจากของกลางจาก สปป.ลาว ได้ร่วมกันเปิดตู้สินค้าทั้ง 24 ตู้ที่เหลือ ซึ่งจากเดิมมีแผนว่าจะทำการเปิด 9 ตู้ในวันนี้ก่อน ซึ่งพบว่า มีข้อผิดสังเกตมากที่สุด แต่เนื่องจากมีการหารือกันจากทุกฝ่าย และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา รวมทั้งสถานที่ไม่เอื้ออำนวยในการจัดเก็บตู้สินค้า เนื่องจากวันนี้ได้นำตู้สินค้าทั้งหมดมาไว้ที่ลานแผนกช่างกล ท่าเรือแหลมฉบัง เนื่องจากท่าเทียบเรือ A0 ต้องการใช้พื้นที่ในการให้บริการลูกค้า
ด้าน นายจักรกฤษณ์ แสงกุหลาบ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงานกรมป่าไม้ กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกันเมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) เรื่องการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัททรัพย์ธนา ทรานสปอร์ต จำกัด ระหว่างเจ้าหน้าที่กรมศุล กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และผู้แทนจากเจ้าของสินค้า
โดยมติที่ประชุมให้ดำเนินการคือ 1.ให้กรมป่าไม้เป็นหลักในการตรวจสินค้า เช่น ตรวจวัดปริมาตรขนาดจำนวนไม้ และประเภทของไม้ 2.ทาง DSI ขอดำเนินการตรวจสอบตู้สินค้าทั้งหมด 30 ตู้โดยขอความร่วมมือจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง 3.เร่งดำเนินการกับตู้สินค้า 6 ตู้ที่เปิดแล้วโดยเร็วเพื่อลดภาระของท่า AO และ 4.DSI จะดำเนินการในเรื่องของคดี เพราะเป็นหน่วยงานที่อายัดสินค้าตั้งแต่เริ่มต้น
ส่วนศุลกากร จะดำเนินการเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายของศุลกากร หากถูกต้องศุลกากรจะดำเนินพิธีกรมศุลกากรในส่งออกให้ตามระเบียบ ส่วนของที่ผิด ถ้าส่งออกไม่ได้ DSI ต้องแจ้งข้อกล่าวหาทำคดี โดยศุลกากร จะเก็บรักษาของกลางในฐานะผู้ดูแลของกลางจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ แต่อย่างไรก็ตาม หากผิดหรือไม่ผิดทางศุลกากรจะประสาน DSI เพื่อขอความเห็นและยินยอม ก่อนจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นายจักรกฤษณ์ กล่าวต่อว่า ในการตรวจสอบครั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วันจะแล้วเสร็จ เนื่องจากจะต้องนำไม้ที่อยู่ภายในตู้ออกมาเพื่อตรวจสอบหากตรงตามใบเอกสารก็จะนำกลับไปไว้ในตู้เช่นเดิม แต่หากผิด และไม่ตรงตามใบเอกสารก็ต้องดำเนินการอายัด และดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
