นครปฐม - รอง ผบ.ตร.เร่งสะสางคดีฆาตกรข่มขืนต่อเนื่อง ตั้งรางวัลนำจับ 4 แสนบาท สำหรับผู้แจ้งเบาะแส รวมถึงเร่งตามหาเจ้าของเสื้อยึดแขนยาวที่คนร้ายทิ้งไว้ พร้อมตั้งศูนย์บัญชาการตรงศาลายา ขณะชาวบ้านตำบลลานตากฟ้าขวัญผวา ไม่ออกนอกบ้านช่วงหัวค่ำ และเช้ามืด
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (28 ม.ค.) ที่ ศปก.ภ.7 ชั้น 4 ตึก บช.ภ.7 พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนูญ เมฆหมอก ผบช.สพฐ. และ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รักษาราชการแทน (รรท.) ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สุรชัย ควรเตชะคุปต์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ตลอดจนหัวหน้า สภ.นครชัยศรี โพธิ์แก้ว สามพราน และพุทธมณฑล และ พ.ต.ท.ณรงค์ธรรม มาศคีรีวงศ์ กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ นักวิทยาศาสาตร์ (สบ 3) ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 (ศพฐ.7) ร่วมวิเคราะห์พฤติกรรมคดีคนร้ายข่มขืนต่อเนื่อง และดูเส้นทางการก่อเหตุของคนร้าย เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนติดตาม และคลี่คลายคดี
ต่อมา เวลา 12.30 น. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.และคณะทีมร่วมคลี่คลายคดีได้เปิดห้องให้สื่อมวลชนได้เข้าสอบถามถึงความคืบหน้าในการติดตามคดี โดยกล่าวว่า วันนี้ได้เชิญหน่วยงานต่างๆ เข้ามาร่วมประชุมหาแนวทางในการติดตามหาตัวคนร้าย ซึ่งตอนนี้ได้มีการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ไว้จากทุกแหล่งข้อมูลโดยแน่ชัดว่า เหยื่อทั้ง 9 รายที่ถูกก่อเหตุนั้นเป็นคนเดียวกัน แต่รายที่ 10 ที่ถูกก่อเหตุนั้นยังต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอมาประกอบอีกครั้งซึ่งผลยังไม่ออกมา
โดยประเด็นที่ตอนนี้ได้มีการตั้งค่าหัวให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสคนร้ายนำไปสู่การจับกุมคนร้ายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 2 แสนบาท
พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตำรวจได้เร่งติดตามคนร้ายทุกวิถีทาง ทั้งการติดตามผู้ป่วยทางจิต การติดตามคดีค้างเก่า การติดตามจากภาพสเกตช์คนร้าย และการนำหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาประกอบกับการทำงานของชุดสืบสวน ซึ่งส่วนใหญ่เหยื่อให้ข้อมูลตรงกัน และตอนนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.มาติดตามเรื่องนี้โดยตรง โดยจะตั้งศูนย์ฝึกที่กองบังคับการตำรวจกลาง นครบาล ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล ซึ่งจะเปิดทำการตั้งแต่พรุ่งนี้ เริ่มทำงานตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป และจะมีการรายงานผลแบบต่อเนื่องตลอดเวลา และเป็นศูนย์กลางการสั่งการ
“ตอนนี้ส่วนที่ได้มีการติดตามความชัดเจนคือ การติดตามเสื้อที่คนร้ายได้ก่อเหตุต่อเหยื่อที่เกิดขึ้นที่ อ.นครชัยศรี เมื่อเดือนมกราคมปี 2558 เป็นเสื้อแขนยาว สีกรมท่า ปักชื่อคำว่า ประเสริฐ สีขาวที่หน้าอกซ้าย ซึ่งเหยื่อนั้นสามารถจดจำได้เป็นอย่างดี โดยกำลังมีการเร่งตามเจ้าของเสื้อเชื่อว่าเจ้าของน่าจะเป็นร้านค้า หรือร้านจำหน่ายเครื่องมือก่อสร้างและการเกษตร เชื่อว่าเจ้าของเสื้อถ้าเห็นภาพแล้วน่าจะจำได้ว่าเป็นของร้านค้า หรือกิจการของตัวเอง เพื่อจำกัดวงแคบของคนร้ายที่น่าจะได้เสื้อมา” พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าว
พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนต้องสงสัย 4 รายที่นำมาตรวจดีเอ็นเอ แต่ไม่ตรงกับของคนร้ายที่มีอยู่จึงได้ปล่อยตัวไป และตอนนี้ได้ทำทุกทางเพื่อให้มีการเร่งนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ โดยตีไว้เป็นวงกว้าง โดยสารเคมีที่เบื่อสุนัขบ้านของเหยื่อ และที่เทไว้ในบ่อเลี้ยงปลาก็ยังไม่ได้ผลจากแล็บออกมา ส่วนมีพยานที่เห็นบางส่วนว่าเห็นคนร้ายมาวนเวียนในพื้นที่ต่างๆ ก็ได้รับแจ้งเบาะแสเข้ามามาก แต่ก็ยังไม่ใช่คนร้ายที่ต้องการตัว และทุกเบาะแสที่แจ้งมานั้นได้เข้าไปตรวจสอบทั้งหมดไม่ได้มีการปัดทิ้งไป
นอกจากนี้ ยังนำระบบบางคนทีโมเดล โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรชัย ควรเตชะคุปต์ รอง ผบช.ภ.7 เป็นผู้ดูแล โดยได้วางมาตรการหลังจากที่มีเหยื่อโดนสังหาร และฆ่าที่เขตอำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม มาใช้คือ การติดตั้งเสียงไซเรนเตือนภัย และมีการปรับนำชุดอินทรีย์ 7 ซึ่งเป็นชุดเฉพาะกิจที่มีความสามารถสูงนำรถจักรยานยนต์ 5 คัน กำลัง 10 นาย เข้าถึงที่เกิดเหตุหากได้รับแจ้งทันที ตอนนี้ได้มีการสั่งการไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้มีการป้องกันเหตุเนื่องจากยังไม่สามารถจับคนร้ายได้
ด้าน พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ตอนนี้อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามคดีอย่างหนัก และขอให้อย่าตระหนกจนเกินไปจนไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ ซึ่งเหตุการณ์ไม่ได้น่ากลัว และวิตกเกินกว่าที่จะต้องหวาดกลัว เพียงแต่ให้ระวัง และพยายามป้องกันตัวและรีบแจ้ง 191 ทันทีที่พบเบาะแของคนร้าย หรือพบบุคคลที่ต้องสงสัยตามภาพสเกตช์ หรือมีพฤติกรรมที่เข้าข่าย
เวลา 14.30 น. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และคณะได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ 1 แห่ง ที่ ม.1 ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อไปตรวจสอบลักษณะบ้านหลังดังกล่าว และเก็บข้อมูลเพิ่มเติม โดยมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมเก็บเสื้อแ ละผ้าปูเตียงของเหยื่อเพื่อนำไปตรวจสอบดีเอ็นเอ และหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อื่นๆ เพื่อนำมาประกอบกับการติดตามคดี
ขณะที่ในพื้นที่ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผู้สูงอายุทั้งหมด และเดินเรียงหน้ากระดานปูพรมทุกซอยในพื้นที่ เพื่อนำข้อมูลลักษณะผู้สูงอายุ ลักษณะบ้านเรือนที่คนร้ายพุ่งเป้ามาประมวลกับพื้นที่ต่างๆ อย่างละเอียด รวมถึงเข้าเก็บข้อมูลจากชาวบ้านทุกคนที่สามารถให้ข้อมูลได้
โดยขณะที่ผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบในพื้นที่พบว่า มีหญิงสูงวัยหลายคนกำลังเข้ามารวมตัวเพื่อเตรียมของสำหรับงานบุญที่วัดพุทธรังษี ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของเหยื่อรายหนึ่ง และได้สอบถามถึงความรู้สึกหลังเกิดข่าวดังกล่าวขึ้น ซึ่งหญิงสูงวัย และชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีความหวาดกลัวตั้งแต่วันเกิดเหตุไม่ใช่แค่ช่วงที่มีข่าว และตอนนี้อยากให้ตำรวจจับคนร้ายได้เร็วเพราะอยู่ในพื้นที่มานานกว่า 40 ปี ไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. มีรายงานว่า พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานผลการตรวจดีเอ็นเอ วัตถุพยานของคนร้ายที่ก่อเหตุข่มขืนหญิงชราที่สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นรายที่ 10 มายัง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก สตช.ว่า ผลดีเอ็นเอตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุข่มขืนและฆ่าหญิงชรา จำนวน 9 คดีที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร
สำหรับการตั้งเงินรางวัลนำจับผู้ต้องหารายนี้ ล่าสุด มีรายงานว่าขณะนี้มียอดค่าหัวสูงถึง 4 แสนบาทแล้ว
