xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภ.7 ลั่นฆาตกรข่มขืนต่อเนื่องเป็น “กามวิปริต” อันตรายต่อสังคม ต้องจับให้ได้ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครปฐม - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำทีมนายตำรวจวางแนวติดตามไล่ล่าจับกุมฆาตกรต่อเนื่องหญิงชรา ลั่นต้องจับให้ได้เร็วที่สุด พร้อมยันเป็นคนร้ายโรคจิต เห็นเหยื่ออายุมาก ขาวอวบสบโอกาสจะลงมือทันที ยันไม่เคยทิ้งคดีนี้ และเชื่อมั่นทีมงานจะร่วมมือกันทำงานเต็มที่ในการสะสางคดี เผยเหยื่อรายที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค.กำลังรอผลการตรวจสอบ

เช้าวันนี้ (26 ม.ค.) ที่ห้องประชุม ชั้น 4 ศปก.ภ.7 อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ต.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พร้อมด้วย รอง ผบช.ภ.7 จำนวน 5 นาย ประกอบด้วย พล.ต.ต.พูลศักดิ์ ประเสริฐศักดิ์ พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร พล.ต.ต.ชนาภันทร วัฒนวิศาล พล.ต.ต.วิเชียร ตันตะวิริยะ พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ และ พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น พร้อมทั้ง พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม และ พ.ต.อ.สมชาย รักเสนาะ ผกก.สส.ภ.7 ตลอดจน ผกก.สภ.ในพื้นที่ จ.นครปฐม พ.ต.อ.ชนะ สุวรรณโกมล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม รอง ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม และทีมไล่ล่าฆาตกรข่มขืนต่อเนื่องหญิงชรา เหตุเกิดในพื้นที่ จ.นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม โดยก่อเหตุบุกข่มขืนยายวัย 70 ปี เป็นรายที่ 10 ในพื้นที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 25 ม.ค.58 ที่ผ่านมา ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงคดีที่เกิดขึ้น



โดย พล.ต.ต.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 ได้แถลงด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเอาจริงเอาจังว่า ในเบื้องต้นทราบว่าตอนนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นที่สนใจเพียงในประเทศเท่านั้น แต่สื่อต่างประเทศก็เริ่มมีการติดตามข่าวนี้แล้ว ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้มีการติดตามคดีนี้อย่างจริงจัง ซึ่งในคดีนี้ถือว่าเป็นคดีทีเกิดขึ้นต่อเนื่อง และทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการสั่งการสืบสวนในทางลับมาโดยตลอด แต่คนร้ายก็ได้ก่อเหตุ และหลบหนีไปเงียบๆ โดยที่ยากต่อการติดตามจับกุมเพราะได้มีการเคลื่อนที่ไปในหลายพื้นที่

พล.ต.ต.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ในคดีนี้ได้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553 และเราได้พบความผิดปกติเมื่อวันที่ 8 ม.ค.55 จากนั้นได้มีการก่อเหตุต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 คนเก่าที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าก็ได้มีการรวบรวมข้อมูล และติดตามคดีดังกล่าวมาโดยตลอด โดยล่าสุด ทั้งหมดเกิดเหตุ 10 คดี โดยการเกิดเหตุล่าสุดในพื้นที่ สภ.นครชัยศรี โดยใน 9 คดี ของตำรวจภูธรภาค 7 โดยตนเอง และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้นำข้อมูลพบว่า ดีเอ็นเอ ของผู้ก่อเหตุนั้นเป็นคนคนเดียวกัน

ส่วนรายที่ 10 ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา กำลังรอผลการตรวจสอบซึ่งการสืบสวนติดตามตัวคนร้ายได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 ประสานงานกับตำรวจกองปราบปราม และมีการประสานงานกับ พญ.แพทย์จิตเวช รพ.ตำรวจ ในการติดตามพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้ โดยเชื่อว่าคนร้ายนั้นเป็นพวกกามวิปริต ซึ่งตอนนี้ได้มีการทำเว็บไซต์เตือนภัยให้แก่ประชาชนให้ทราบในเรื่องการป้องกันตัวเองจากการโดยข่มขืน

สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายได้วิเคราะห์ในหลายรูปแบบ ที่พบคือ คนร้ายมักจะก่อเหตุกับคนสูงอายุ ที่อยู่บ้านคนเดียว หรืออยู่กับลูกหลานไปๆ มาๆ ลักษณะบ้านคือ บ้านเดี่ยว เปลี่ยว โดยจะดูลาดเลา และวันก่อเหตุคือ วันหยุดนักขัดตฤกษ์ หรือวันหยุดพิเศษ และคนร้ายจะมีลักษณะสูงใหญ่กำยำแข็งแรงมาก ชุดที่สวมใหญ่มีหมวกไหมพรมปิดบัง เหมือนกับคนหาปลาที่ออกหาปลาในเวลากลางคืน อาวุธที่คนร้ายจะใช้อาวุธจะใช้มีด หรือชะแลงที่อยู่ในบ้านเกิด

จึงขอเตือนประชาชนว่าควรเก็บอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ให้ไกลมือคนร้าย โดยบ้านเรือนที่ลงมือก่อเหตุจะเป็นบ้านมืดเพื่อพรางจากคนทั่วไปที่จะสังเกตได้

พล.ต.ต.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ตอนนี้ได้สั่งการให้มีการแจ้งเตือนไปยังพื้นที่ต่างๆ ในเรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนในช่วงนี้ และพฤติกรรมของคนร้ายคือ เป็นกามวิปริต คือชอบร่วมเพศกับผู้สูงอายุ และแรงผลักดันในเรื่องเพศกับผู้สูงอายุลักษณะขาวอวบ และถือว่าเป็นผู้ป่วยทางจิต มีความอันตราย คนที่มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้านคงต้องมีมาตรการป้องกันไว้ก่อนในช่วงนี้ หากมีคนลักษณะนี้ขอเข้ามาด้อมๆ มองๆ ผู้สูงอายุ ควรโทร.แจ้ง 191 ไว้ก่อน

สำหรับมาตรการตอนนี้ผู้บังคับการตรวจภูธรทั้ง 8 จังหวัดได้มีการสั่งการในการทำแผนรับมือเรื่องนี้ไว้ในพื้นที่รับผิดชอบแล้ว เพราะเชื่อว่าคนร้ายอยู่ในพื้นที่ภาค 7 ซึ่งตอนนี้เบื้องต้นเชื่อว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นนั้นคนร้ายน่าจะได้รับการเลี้ยงดูจากผู้หญิงสูงอายุในวัยเด็กจึงได้เกิดความผิดปกติ เป็นกามวิปริต ซึ่งเมื่อสบโอกาสก็จะหาช่องทางในการก่อเหตุ แต่หากไม่มีแรงกระตุ้นก็จะอยู่เหมือนคนปกติทั่วไป ไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้มีการวางแนวทางในการสืบสวนทุกรูปแบบ ทั้งทางจิตแพทย์ นิติวิทยาศาสตร์ แนวทางการสืบสวนของตำรวจที่มีหลักการอยู่ โดยจะทำงานอย่างเร่งด่วนจริงจัง และเอาจริงต่อคดีนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน ซึ่งตน และทีมงานเชื่อมั่นว่าจะติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ แต่ขออย่าให้กำหนดช่วงเวลาที่กระชั้นชิดเกินไป เพราะจะเป็นการกดดัน

“ผมเองเมื่อลงสนามแล้วบอกได้เลยว่าต้องชนะอย่างเดียว แต่ผลจะเป็นอย่างไรค่อยมาสรุปกัน แต่งานนี้ตำรวจทุกท้องที่ไม่ได้นิ่งนอนใจอย่างแน่นอน” ผบช.ภ.7 กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเปิดแถลงข่าวได้ใช้เวลานานราว 30 นาที ซึ่งท่าทีของนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาชั้นสูงเป็นไปอย่างตึงเครียด มีการระวังการตอบคำถามทุกคำถามที่สื่อมวลชนจำนวนมากเข้ามาติดตามข่าว โดยเน้นให้เห็นชัดถึงวิธีการสืบสวน และติดตามคดีอย่างละเอียดก่อนจะมีการปิดห้องประชุมไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปติดตามในการประชุมลับในการคลี่คลายคดีตลอดช่วงครึ่งวันเช้าที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น