xs
xsm
sm
md
lg

รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ นำ 10 จว.ภาคเหนือรณรงค์งดเผาป่าลดหมอกควัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำหน่วยงาน 10 จังหวัดภาคเหนือเปิดโครงการรณรงค์ไม่เผาป่า ลดหมอกควัน กำชับดำเนินการต่อเนื่องจริงจัง ระดมทุกภาคส่วนเข้าร่วมทั้งเจ้าหน้าที่ และประชาชน

วันนี้ (21 ม.ค. 58) ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ไม่เผาป่า ลดหมอกควัน ประจำปี 2558 โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมในโครงการกว่า 1,000 คน พร้อมทั้งได้มีการกล่าวคำปฏิญาณและสาธิตการดับไฟป่า เพื่อป้องกันและลดปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันดำเนินการแก้ไข

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาไฟป่าและหมอกควันยังคงเป็นปัญหาใหญ่โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ทั้งด้านสุขภาพ ทัศนวิสัยในการมองเห็นของประชาชน และการคมนาคมทางอากาศ ตลอดจนเศรษฐกิจโดยรวม

ทั้งนี้ จากการติดตามปรากฏการณ์เอนโซ (Enso) โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศขององค์การนาซ่า (NASA) ได้เตือนภูมิภาคเอเชียให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) อันนำมาซึ่งความแห้งแล้ง โดยประเทศในภูมิภาคเอเชียมีโอกาสเผชิญกับปรากฏการณ์เอลนีโญสูงถึง 70%

อย่างไรก็ตาม จากสถิติของสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ในการตรวจพบจุดความร้อนที่เกิดบนพื้นโลก (Hotspots) ผ่านดาวเทียม Terra/Aqua ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมถึงสถิติการเกิดไฟป่าทั่วประเทศ ในปี 2557 ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 ที่ตรวจพบจุด Hotspots จำนวนถึง 30,879 จุด ขณะที่ปี 2557 ตรวจพบจุด Hotspots ลดลงจำนวน 1,844 จุด

จากข้อมูลสถิติการปฏิบัติงานดับไฟป่าของหน่วยงานควบคุมไฟป่า พบว่าในปี 2557 ตรวจพบและดับไฟป่าจำนวน 4,241 ครั้ง รวมพื้นที่ถูกไฟไหม้ 49,939.7 ไร่ ซึ่งลดลงจากปี 2556 ที่ตรวจพบและดับไฟป่า 5,253 ครั้ง รวมพื้นที่ถูกไฟไหม้ 58,516.9 ไร่ จะพบว่ามีพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ลดลงจำนวน 8,577.2 ไร่

ทั้งนี้ จากรายงานดังกล่าวการดำเนินการลดปัญหาไฟป่า หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินการร่วมกันทุกฝ่าย ไม่ใช่เพียงแค่องค์กรหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง และจำเป็นที่จะต้องมีการลงพื้นที่สร้างความเข้าใจร่วมกันกับประชาชน และชาวบ้านในทุกพื้นที่

ทั้งนี้ เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการเกิดไฟป่า หมอกควัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นปัญหาที่มีความสำคัญ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทุกคน

ส่วนมาตรการการป้องกันนั้นควรจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อผู้ที่กระทำผิด เพื่อชี้ให้เห็นว่าการลักลอบเผาป่านั้นมีความผิดที่รุนแรง ซึ่งจะทำให้ปัญหาในเรื่องนี้ลดลงได้

ขณะเดียวกัน การเผาเพื่อทำไร่หรือเตรียมพื้นที่เพาะปลูกก็ควรมีการชิงเผาก่อนหน้าฤดู หรือห้วงเวลาที่จะเกิดปัญหาไฟป่า หมอกควัน และควรมีการเผาไปเป็นลำดับไม่ใช่มาเผาในเวลาไล่เลี่ยกันเกินไป โดยในปีนี้การดำเนินการมาตรการทุกอย่างจะต้องเข้มงวดรัดกุม และสามารถตรวจสอบรายงานผลได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ประกอบกับปัญหาเรื่องหมอกควันต้องลดลงด้วย

สำหรับการเปิดโครงการนี้จะเป็นการประชาสัมพันธ์ให้หลายหน่วยงานได้ทราบถึงแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน เพื่อป้องกันและลดปัญหาการเผาป่าและปัญหาหมอกควันได้อีกทางหนึ่ง

ด้านนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า เพื่อให้การอนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแลทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อเป็นการเตรียมรับมือไฟป่าและหมอกควัน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้จัดการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน ลำพูน พะเยา ตาก แม่ฮ่องสอน และโครงการรณรงค์ไม่เผาป่า ลดหมอกควัน ประจำปี 2558

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือของหน่วยงานสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตลอดจนบูรณาการการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ มาตรการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันปี 2558 ตลอดจนนโยบายและมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป และเพื่อรณรงค์เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า ตลอดจนปัญหาผลกระทบและอันตรายจากหมอกควัน

นอกจากนี้ กิจกรรมการรณรงค์ไม่เผาป่า ลดหมอกควันภายในงานจะจัดให้มีนิทรรศการเสริมสร้างความรู้การควบคุมไฟป่า เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานที่ประกอบด้วยกลุ่มพลังมวลชนทุกกลุ่มในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคเหนือ เช่น นักเรียน นักศึกษา อาสาสมัครป้องกันไฟป่า และเครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสม.) เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ผู้นำท้องถิ่น และส่วนราชการต่างๆ ได้ทราบถึงการดูแลทรัพยากรป่าไม้ การป้องกันและควบคุมการเกิดไฟป่า ช่วยกันเป็นหูเป็นตาและแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบหากเกิดไฟป่า ซึ่งจะมีการมอบอุปกรณ์ดับไฟป่าและเงินสนับสนุนให้แก่เครือข่ายด้วย และหากพบเห็นการเกิดไฟไหม้ป่า โปรดแจ้งหน่วยงานควบคุมไฟป่าควบคุมไฟป่าในพื้นที่ หรือโทร.สายด่วนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง







กำลังโหลดความคิดเห็น