ชาวนาเมืองช้างเร่งถอนต้นกล้าหนีตาย โวยชลประทานบริหารน้ำห่วย(ชมคลิป)

สุรินทร์ - ชาวนาเมืองช้างเร่งถอนกล้าข้าวหาที่ปลูกใหม่ โวยกรมชลประทานสร้างคลองส่งน้ำห่วย ส่งน้ำไม่ได้ ต้นกล้าข้าวนับพันไร่รอแห้งตาย แถมทำคลองส่งน้ำต่ำกว่าที่นา บางส่วนที่ทำแล้วยังไม่ได้เปิดให้น้ำไหลผ่านแต่ปูนแตก ชำรุดเสียหายใช้การไม่ได้ วอน คสช.ช่วยด่วน




เมื่อเช้าวันนี้ (21 ม.ค.) นางสุรัตน์ คุณเลิศ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 ม.2 บ้านหนองใหญ่ ต.หนองหลวง อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ พร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบต้นกล้าข้าวในพื้นที่บ้านหนองแวง ต.หนองหลวง ที่กำลังแห้งตายเพราะขาดแคลนน้ำจำนวนนับพันไร่หลังจากได้ลงมือหว่านกล้าข้าวไปแล้วนับเดือน

จากการสังเกตของผู้สื่อข่าว พบว่าในพื้นที่ดังกล่าวยังพบเห็นชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันถอนต้นกล้าข้าวต้นเล็กๆ จากนาซึ่งเป็นดินทรายที่แห้งแล้ง

นายเยี่ยม บุญยิ่ง อายุ 38 ปี เจ้าของนา เล่าว่า ตนได้ขอแรงเพื่อนบ้านมาช่วยถอนต้นกล้าในที่นา เพื่อนำไปปลูกแปลงใหม่หวังจะให้ต้นกล้ามีชีวิตรอดมาได้บ้าง ทั้งนี้เพราะปัญหาจากระบบการส่งน้ำจากคลองชลประทานที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จไม่นาน ไม่สามารถส่งน้ำมาถึงพื้นที่ปลายทางได้

ด้านนางสุรัตน์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อปลายเดือน ก.พ. 57 ทางสำนักกรมชลประทานที่ 8 กรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างสถานีสูบน้ำจากห้วยด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบส่งน้ำจากลำห้วยทับทัน ถึงบ้านหนองแวง ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ด้วยงบประมาณ 20 ล้านบาท และมีการขอบริจาคที่ดินจากชาวบ้านเพื่อสร้างเป็นระบบคลองส่งน้ำด้วย ระบบคลองส่งน้ำสร้างเสร็จเมื่อประมาณ ก.ย. 57 และเริ่มเปิดใช้งานเมื่อ เดือนธันวาคม 57 เป็นต้นมา มีการประชุมคณะกรรมการคลองน้ำเป็นช่วงๆ

คนที่จะทำนาปรังต้องจ่ายค่าน้ำเข้านาในราคาไร่ละ 300 บาท โดยให้จ่ายก่อน 200 บาท และเมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จจะต้องจ่ายส่วนที่เหลืออีกไร่ละ 100 บาท แต่หลังจากที่ทุกคนได้จ่ายเงินไปแล้วปรากกฏว่าระบบการส่งน้ำไม่สามารถส่งน้ำมาถึงปลายทางได้ ทำให้ต้นกล้าข้าวที่กำลังเกิดขึ้นต้องขาดแคลนน้ำและกำลังแห้งตายดังกล่าว

นายคาน สละประทุม อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 38 ม.2 เล่าว่า ตนทำนา 5 ไร่ จ่ายเงินไปแล้ว 1,000 บาท ยังไม่ได้รับน้ำเข้านา แม้ตนจะพยายามขุดวางท่อพีวีซีเพื่อจะเอาน้ำเข้าสู่นา แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ยอมปล่อยน้ำมาที่ปลายทาง โดยอ้างว่าหากปล่อยน้ำมาแล้วคลองส่งน้ำบริเวณกลางน้ำจะเอ่อล้นและคลองชลประทานจะแตก น้ำจะทะลักได้

ทั้งนี้ ตนและชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการก่อสร้างระบบคลองส่งน้ำ ว่าก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานตามแบบแปลน เพราะระดับพื้นดินถนนของคลองอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ารูปแบบแปลนถึง 1.50 เมตร

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คลองน้ำอยู่ระดับต่ำกว่าพื้นที่นาของชาวบ้าน นอกจากนี้ยังพบรอยร้าวของแผ่นปูนเป็นแห่งๆ จึงเป็นสาเหตุให้ไม่สามารถนำน้ำเข้าสู่ที่นาได้

ขณะที่ชาวบ้านจากตำบลอื่นๆ ที่ไม่มีส่วนได้เสียในการก่อสร้างกลับได้รับประโยชน์จากระบบคลองส่งน้ำไปทำนาปรังอย่างเหลือเฟือ พวกตนจึงขอวิงวอนให้ทาง คสช.ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและแก้ปัญหาให้ด่วนด้วย