กาฬสินธุ์ - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์กำชับตำรวจท้องที่เฝ้าติดตามชายฉกรรจ์คดีฮั้วประมูลงาน อบต.ดอนสมบูรณ์ป้องกันการหลบหนี ขณะที่ ป.ป.ช.จังหวัดรอสำนวนการสอบสวน ย้ำพัวพันข้าราชการจะเอาผิดเต็มที่
ความคืบหน้าคดีฮั้วประมูลงาน อบต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ที่ล่าสุดนายศักดิ์สิทธิ์ ภูวิจิตร อดีตข้าราชการครู ผู้ถูกกล่าวหาในคดีฮั้วประมูล ได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนไปแล้ว แต่ในขณะที่ชายฉกรรจ์ก 4 คนยังไม่ยอมเข้าให้ปากคำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์นั้น
ล่าสุดวันนี้ (20 ม.ค.) ที่ห้องประชุมชัยสุนทร กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ประชุมหัวหน้าตำรวจระดับผู้กำกับการ รองผู้กำกับการ 23 สถานีเพื่อมอบนโยบาย โดยระบุว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเน้นให้ป้องกันปราบปรามยาเสพติด การลักลอบตัดไม้พะยูง และป้องกันปัญหาคอร์รัปชัน โดยเฉพาะปัญหาฮั้วประมูลงานภายในหน่วยงานของรัฐ
เพื่อให้ผลการทำคดีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะนี้ได้กำชับให้ตำรวจอำเภอยางตลาดเฝ้าติดตามตัว นายอ๋อ สมศรี อายุ 44 ปี นายประดับ ทรัพย์ใส อายุ 44 ปี ว่าที่ ร.ต.รณชิต ภูพลอย อายุ 45 ปี และนายทศกร ศิริเดช อายุ 50 ปี ชาวอำเภอยางตลาด ซึ่งเป็นบุคคลที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด
โดยพนักงานสอบสวนได้ขอหมายศาลออกหมายจับไปแล้ว หลังจากที่ตำรวจได้ขีดเส้นเข้ามาให้ปากคำ ซึ่งล่าสุดถึงแม้จะมีการติดต่อเข้ามาเพื่อเข้าให้ปากคำในวันที่ 22 มกราคมนี้ แต่เพื่อป้องกันการหลบหนีได้สั่งการให้ตำรวจติดตามแล้ว
ขณะที่นายจำเนียง มูลสาร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ยังคงประสานงานกับพนักงานสอบสวนในคดี ซึ่งยังรอให้ตำรวจสรุปผล โดยเฉพาะในกรณีเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ป.ป.ช.มีหน้าที่ในการตรวจสอบ หากไม่เกี่ยวก็จะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับคดีนี้ประชาชนที่เฝ้าติดตามต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะปัญหาฮั้วประมูลงาน เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน
นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงปัญหากระแสข่าวลือในแต่ละจังหวัด ถึงกรณีการก่อสร้างโรงพักว่ามีการล็อกสเปกในการจัดซื้อว่า หากไม่ซื้อวัสดุในร้านที่กำหนดจะไม่ตรวจงานให้ผ่านนั้น ในส่วนของ จ.กาฬสินธุ์ได้ทำการตรวจสอบแล้วยืนยันว่าไม่มีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น
