“หลวงพระบาง” ยังคึกคัก ไทยแชมป์ธุรกิจบริการ จีน-เวียดนามยึดอุตสาหกรรม-พาณิชย์

เชียงราย - การท่องเที่ยวเมืองหลวงพระบางคึกคัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ และชาวไทย แถมมีจีน เกาหลีใต้เพิ่มขึ้นด้วย เผยวันนี้ทุนไทยยังครองแชมป์ธุรกิจบริการ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สปา ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม-พาณิชย์ เป็นของจีน กับเวียดนามลงทุนสูงสุด

วันนี้ (18 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานระหว่างร่วมคณะนักท่องเที่ยวร่วม 100 คน เดินทางไปกับเรือกาสะลองคำ 2 เรือสัญชาติไทยของบริษัทแม่โขงเดลต้า จากท่าเรือเชียงของ จ.เชียงราย-ปากแบ่ง แขวงไชยบุรี-หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก สปป.ลาว ช่วงสุดสัปดาห์นี้ว่า เมืองหลวงพระบาง ยังคงคึกคักไปด้วยท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ และนักท่องเที่ยวไทยเช่นเดิม

ด้าน นางพิมล ปงกองแก้ว อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) ประจำ สปป.ลาว ที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่หลวงพระบาง กล่าวว่า ไทยกับ สปป.ลาว มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับพื้นที่อย่างพาณิชย์ 12 จังหวัด และ 9 แขวงของ สปป.ลาว รวมทั้งมีการประชุมระดับรัฐมนตรี หรือจีทีซีเป็นประจำทุกปี ล่าสุด มีกำหนดจัดการประชุมในวันที่ 4-5 ก.พ.นี้ ที่กรุงเทพฯ

ส่วนหลวงพระบาง เป็น 1 ใน 2 เมืองมรดกโลกของ สปป.ลาว เป็นเมืองที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับไทยมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวยุโรปที่เดินทางเข้าหลวงพระบางกว่า 60% เดินทางผ่านไทยก่อน นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวเดินผ่านแม่น้ำโขงจาก อ.เชียงของ จ.เชียงราย เข้าหลวงพระบางอย่างต่อเนื่อง ด้านสินค้าก็พบว่าสินค้ากว่า 80% มาจากประเทศไทย

นางพิมล กล่าวอีกว่า ในส่วนของการท่องเที่ยวพบว่า ในปัจจุบันนอกจากนักท่องเที่ยวไทย และยุโรปแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวชาวจีน เกาหลีใต้เข้ามามากขึ้น ทำให้ในปี 2556 ที่ผ่านมา เมืองนี้ได้รับรางวัลเมืองที่น่าเที่ยวที่สุด จากสภาการท่องเที่ยวเศรษฐกิจการค้ายุโรป

“ความคึกคักด้านการท่องเที่ยวของหลวงพระบางก็เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยด้วย ทั้งในด้านการเดินทาง ธุรกิจของคนไทยที่เข้าไปลงทุนในภาคบริการในหลวงพระบาง ทั้งโรงแรม สปา ร้านอาหาร มากเป็นอันดับ 1 ขณะที่จีน กับเวียดนาม ลงทุนในภาคอุตสาหกรรม เหมืองแพร่ รถจักรยานยนต์ การเกษตรแปรรูปมากที่สุด ซึ่งทางพาณิชย์ก็จะพยายามส่งเสริมธุรกิจบริการ ที่เป็นจุดแข็งของไทยต่อไป”