xs
xsm
sm
md
lg

กทท.กรุยทางฟื้นท่าเรือเชียงของ เชื่อมตรงหลวงพระบาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอดิสรณ์ อโนทัยสินทวี ผช.ผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย สายงานพัฒนาธุรกิจและบริการสินทรัพย์ (เสื้อสเทา)
เชียงราย - การท่าเรือแห่งประเทศไทย ยกคณะเปิดเจรจาแขวงหลวงพระบาง กรุยทางฟื้นท่าเรือเชียงของ เชื่อมตรงปากแบ่ง-หลวงพระบาง

วันนี้ (17 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่คณะนักท่องเที่ยวไทย พร้อมด้วยสื่อมวลชนในเชียงรายร่วม 100 คน ลงเรือกาสะลองคำ 2 ของบริษัทแม่โขงเดลต้าล่องแม่น้ำโขงจากท่าเรือเชียงของ-หลวงพระบาง สปป.ลาว สุดสัปดาห์นี้ เมื่อคณะเดินทางไปถึงพบว่า นายอดิสรณ์ อโนทัยสินทวี ผช.ผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย สายงานพัฒนาธุรกิจและบริการสินทรัพย์ นำคณะเดินทางไปพบปะหารือกับแผนกการต่างประเทศ แผนโยธาธิการและขนส่ง หน่วยงานเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกสินค้า การจัดเก็บภาษี และหน่วยงานภาคเอกชนของของแขวงหลวงพระบาง สปป.ลาวด้วย

นายอดิสรณ์ บอกว่า เดินทางมาหารือกับหน่วยงานต่างๆ เรื่องการพัฒนาความร่วมมือระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทย กับทางแขวงหลวพระบาง โดยมี นางพิมล ปองกองแก้ว อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) ของไทยร่วมในการหารือด้วย เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้ง 2 ประเทศ และหารือเรื่องการพัฒนาความร่วมมือระหว่างท่าเรือ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ของประเทศไทย กับเมืองหลวงพระบางในอนาคต

นายอดิสรณ์ กล่าวว่า หลังมีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 ที่ อ.เชียงของ เชื่อมกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เมื่อปี 2555 เป็นต้นมา แม้จะทำให้การใช้ประโยชน์ท่าเรือแม่น้ำโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซบเซาลง จากเดิมที่มีการใช้เพื่อการขนส่งสินค้าข้ามแม่น้ำโขงด้วยแพขนานยนต์ระหว่างไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ ทางผู้ประกอบการก็หันไปใช้สะพานในการขนส่งสินค้าแทน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ท่าเรือเชียงของยังคงมีการใช้เพื่อขนส่งสินค้าจาก อ.เชียงของ-ปากแบ่ง แขวงไชยะบุรี ไปยังท่าเรือเมืองหลวงพระบาง ระยะทางประมาณ 330 กิโลเมตร ด้วยเรือขนาด 300-400 ตันเป็นหลัก โดยมีการขนวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ ฯลฯ ที่บางส่วนส่งไปก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่เมืองปากแบ่ง

นอกจากนี้ ยังมีเรือท่องเที่ยวของเอกชนไทย-ต่างชาติ ที่ยังคงให้บริการล่องเรือนำเที่ยวจากเชียงของ-ปากแบ่ง-หลวงพระบาง กันเช่นเดิม และมีแนวโน้มคึกคักมากขึ้นด้วย

นายอดิสรณ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงธุรกิจด้านอื่นๆ ระหว่างเชียงของ-หลวงพระบาง ทางการท่าเรือฯ จึงได้เข้าหารือกับทางแขวงหลวงพระบาง เพื่อขอให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางทางเรือจากท่าเรือ อ.เชียงของ ไปทำเอกสารเข้าเมือง หรือแสตมป์พาสปอร์ตที่ท่าเรือเมืองหลวงพระบางได้โดยตรง ไม่ต้องแสตมป์พาสปอร์ตที่ด่านเมืองห้วยทราย สปป.ลาว ที่สะพานข้ามแม่น้าโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือแม่น้ำโขง อ.เชียงของ เล็กน้อย

โดยทางแขวงหลวงพระบาง รับจะนำไปพิจารณา แต่แจ้งว่าท่าเรือของลาว ยังไม่เป็นสากล และขาดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งทางแขวงฯ ยังต้องการพัฒนาขึ้นมารองรับการขนส่งสินค้า การท่องเที่ยวผ่านแม่น้ำโขงอยู่ จึงต้องการความร่วมมือทางวิชาการจากทางประเทศไทยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ทางการคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย จึงจะมีการหารือกันต่อไปว่า จะให้การช่วยเหลือทางแขวงหลวงพระบางอย่างไรต่อไป ซึ่งหากมีความร่วมมือกันมากขึ้นก็จะช่วยเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างเชียงของ-หลวงพระบาง ได้ดียิ่งขึ้นด้วย และเป็นผลดีต่อการลงทุน เนื่องจากการนำเข้าสินค้าของแขวงหลวงพระบางมาจาก 2 ส่วน คือ ทางบกมาจาก จ.หนองคาย-นครเวียงจันทน์-หลวงพระบาง ส่วนทางน้ำ ยังคงมาจากทางเรือแม่น้ำโขงจาก อ.เชียงของ โดยตรง





กำลังโหลดความคิดเห็น