ศูนย์ข่าวศรีราชา - ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก โดยเน้นย้ำให้กลุ่มจังหวัดตะวันออกเร่งรัดในการทำสัญญาโครงการต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ พร้อมย้ำเรื่องการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว และแรงงานเด็ก
วันนี้ (14 ม.ค.) ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะทำงานลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เพื่อประชุมกำกับ และติดตามการปฏิบัติราชการจังหวัดชลบุรี และกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ณ ห้องประชุมชลบุรี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดชลบุรี โดยมีนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวในที่ประชุมว่า การประชุมเพื่อรับทราบปัญหาในพื้นทีการกำกับ และติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคเขต 9 ในเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ 3 เดือนแรก ปัญหาด้านแรงงาน การดำเนินของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ความคืบหน้าการดำเนินการในเรื่องเศรษฐกิจพิเศษ (เฉพาะจังหวัดตราด) และปัญหา หรือความสำคัญเร่งด่วนของจังหวัด หรือเรื่องที่ราษฎรได้รับความเดือดร้อน
พร้อมทั้งได้ย้ำถึงการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว และแรงงานเด็ก ซึ่งต่างชาติโดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ความสำคัญ โดยในส่วนของปัญหาแรงงานเด็ก ขอให้รณรงค์ขอความร่วมมือจากนายจ้าง และผู้ประกอบการแจ้งจำนวนแรงงานเด็กตามจำนวนจริงเพื่อให้ภาครัฐมีข้อมูลในการชี้แจงต่อต่างชาติได้
ส่วนเรื่องของปัญหาแรงงานต่างด้าวนั้นเข้าใจว่าเป็นปัญหาที่สำคัญ โดยทั้ง 4 จังหวัด ได้รับผลกระทบคล้ายๆ กัน ซึ่งจะนำไปหารือกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดำเนินการ ทั้งในเชิงนโยบาย และการแก้ไขปัญหาเฉพาะ ที่จังหวัดจันทบุรี ที่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงานช่วงเก็บเกี่ยวผลไม้
ส่วนการใช้การเบิกจ่ายโครงการต่างๆ ของงบประมาณปี 2557 และปี 2558 เท่าที่ดูจากรายงานของทั้ง 4 จังหวัด พบว่า มีโครงการอีกเป็นจำนวนมากที่ได้รับงบประมาณมาแล้วแต่ยังไม่มีการเบิกจ่าย ขอให้แต่ละจังหวัดเร่งรัดในการทำสัญญาให้แล้วเสร็จในช่วงเดือนมีนาคมนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น
ส่วนการดำเนินงานเรื่องศูนย์ดำรงธรรมในแต่ละจังหวัดนั้นทำดีแล้ว โดยเฉพาะจังหวัดระยอง ที่ได้นำระบบไอทีมาใช้ โดยการทำแอปพลิเคชัน Ray เพื่อรับเรื่องร้องเรียนความเดือดร้อนจากประชาชนผ่านทางมือถือสมาร์ทโฟน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่ต้องเดินทางมาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัด โดยสามารถร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ทันทีบนมือถือ “สมาร์ทโฟน” นับว่าจังหวัดระยอง เป็นจังหวัดแรกของประเทศ เป็นการแก้ไขปัญหาคู่สายไม่ว่างได้เป็นอย่างดี ซึ่งในจังหวัดอื่นน่าที่จะนำไปใช้บ้าง ถือว่าเป็นเรื่องทีดีมาก
ส่วนเรื่องความคืบหน้าการดำเนินการในเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดตราด นั้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้นำเสนอว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่นโยบายของจังหวัด แต่เป็นนโยบายของรัฐบาลชุดที่ผ่านมาที่ต้องการให้จังหวัดตราด เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่ในความเป็นจริง และศักยภาพของพื้นที่ที่จะเป็นศูนย์กลางการจำหน่ายงานสินค้าเขตปลอดภาษีน่าจะเหมาะสม เพราะการหาคนมาลงทุนน่าจะยากกว่าการที่จะทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการนำสินค้าหน่าย ทั้งจากพม่า จีน เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งจะต้องมีการคุยกันอีกครั้ง