นายจ้างหนุ่มถูกไฟฟ้าช็อตพิการยันให้เงินช่วยเหลือลูกจ้างแล้ว

อุดรธานี - นายจ้างร้านติดตั้งป้ายโฆษณาเมืองอุดรธานีโต้ข่าวเพิกเฉยไม่รับผิดชอบลูกจ้างหนุ่มพิการที่ประสบอุบัติเหตุติดตั้งป้ายโฆษณาถูกไฟช็อตจนพิการ อ้างช่วยเงินค่ารักษารวมแล้วกว่า 60,000 บาท แต่ยอมรับไม่ได้เยี่ยมที่บ้าน ด้านสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดอุดรธานีให้นายจ้างรับผิดชอบค่าจ้างค้างชำระ 5,200 บาทแก่หนุ่มพิการแล้ว

จากข่าวลูกจ้างร้านติดตั้งป้ายโฆษณา นายอภิชิต เต็มตาวงษ์ ประสบอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อตขณะทำงาน กระทั่งต้องตัดนิ้วรักษาชีวิต กลายเป็นหนุ่มพิการ ต้องอาศัยอยู่กับตายาย ที่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ซ้ำร้ายหนุ่มลูกจ้างรายนี้ไม่มีประกันสังคมให้การช่วยเหลือในด้านการรักษาพยาบาล หรือเงินช่วยเหลือภายหลังออกจากโรงพยาบาลมารักษาตัวที่บ้าน

ล่าสุดวันนี้ (13 ม.ค. 58) น.ส.อริสา มูลสาระ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลที่ 72/8 ม.3 ถนนอุดร-สกลนคร พร้อมด้วยนายจักรพงษ์ มูลสาระ อายุ 33 ปี สามี เจ้าของร้านป้ายมิตรภาพ ในฐานะนายจ้างของนายอภิชิต ได้เดินทางเข้าพบนางวษมล มณีสุต นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดอุดรธานี และ น.ส.นัทหทัย นิริศคำพันธ์ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ/พนักงานตรวจความปลอดภัย เพื่อให้ปากคำกรณีนายอภิชิต เต็มตาวงษ์ อยู่บ้านเลขที่382 หมู่ 8 บ้านทุ่งฝน ต.ทุ่งฝน อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ลูกจ้างติดตั้งป้ายเกิดอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อตแล้วพิการ

น.ส.อริสา พร้อมนายจักรพงษ์ ให้รายละเอียดว่า ในช่วงที่นายอภิชิตมาทำงานนั้นได้เปิดร้านติดตั้งป้ายโฆษณาโดยไม่ได้ทำประกันสังคมให้คนงานจริง แต่หลังจากเกิดเหตุตนได้ไปยื่นทำเรื่องให้คนงานในร้านทั้งหมดเข้าระบบประกันสังคมแล้ว

ทั้งนี้ ขณะที่นายอภิชิตนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น ตนในฐานะนายจ้างเดินทางไปเยี่ยมดูแลและพบกับแม่ของนายอภิชิตหลายครั้ง และได้มอบเงินช่วยเหลือเป็นค่ายา ค่ารักษารวมแล้วประมาณ 60,000 บาทเศษ ยอมรับว่าหลังจากที่นายอภิชิตออกจากโรงพยาบาลแล้วไม่เคยเดินทางไปเยี่ยมเยียนนายอภิชิตเลย

ด้านนางวษมล มณีสุต นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานฯ ได้มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการดังกล่าวปฏิบัติตาม พ.ร.บ.และกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ภายในเวลา 30 วัน เสร็จแล้วให้นำแผนการดังกล่าวมาให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความปลอดภัย สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หากไม่ดำเนินการปฏิบัติตามคำสั่งก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย

เจ้าของสถานประกอบการให้การยอมรับว่าเปิดสถานประกอบการโดยไม่ได้จัดทำประกันสังคมให้แก่คนงาน ไม่ได้จัดทำคู่มือในการทำงาน ไม่ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในที่ทำงาน ในส่วนค่าจ้างที่นายจ้างยังไม่ได้จ่ายให้นั้น ในเวลา 14.30 น. นางวษมล พร้อมด้วย น.ส.นัทหทัย นิริศคำพันธ์ นักวิชาการชำนาญการ เจ้าหน้าที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ได้เดินทางเพื่อนำค่าจ้างจำนวน 5,200 บาทไปจ่ายให้นายอภิชิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว