ผบช.น.แจงโยกย้าย “14 รอง ผบก.-59 ผกก.” ยึดประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ยันทำตามกฎระเบียบ ไม่ได้กลั่นแกล้ง
วันนี้ (7 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวภายหลังชี้แจงต่อ ก.ตร.ว่าตนได้เข้าไปชี้แจงทุกประเด็นจน ก.ตร.เข้าใจแล้ว ทั้งนี้ กรณีมีบัตรสนเท่ห์เข้ามาร้องเรียนเรื่องการแต่งตั้งใน บช.น.ตนก็นำมาพิจารณา แต่ไม่มี ผกก.คนใดการลงนามว่าใครร้องเรียนก็ไม่รู้จะสอบใคร เราพิจารณาข้อเท็จจริงในบัตรสนเท่ห์ แต่ก็ไม่พบข้อเท็จจริง ทั้งนี้การแต่งตั้งใน บช.น.ชี้แจงไปว่าทำตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 88/2557 และตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2557 มาตรา ที่ 57 นำข้อเท็จจริงประกอบกฎหมาย ส่วนกรณีตำรวจที่บกพร่องจากกรณีติดตั้งป้ายโฆษณาก็ได้ชี้แจงเหตุที่โยกย้ายไปว่าเป็นกลุ่มที่ถูกดำเนินการทางวินัย ซึ่งเป็นกลุ่มน้อย เหตุผลหลักในการเสนอโยกย้ายใน บช.น.ตามที่ชี้แจงต่อ ก.ตร. ประกอบด้วย 1. ความเหมาะสมในการวางตัวบุคคลในภารกิจรับเสด็จฯ 2. ใน สน.ที่มีปริมาณคดีอาญากรณีเหตุการณ์ชุมนุม 2557 จำนวนมากจึงจำเป็นต้องแต่งตั้ง ผกก.ที่มีประสบการณ์ความรู้ความสามารถในงานสอบสวน มาสอบสวนสำนวนที่ค้างอยู่เสร็จสิ้น 3. การรายงานข้อมูลจากหน่วยความมั่นคง 4. ข้อมูลถูกดำเนินการทางวินัย จากกรณีถูกจับกุมอบายมุขเป้าหมายตามนโยบายหลักของตร. กรรีถูกดำเนินการทางวินัยกรณีป้ายโฆษณา และกรณีดำเนินการทางวินัยอื่นๆ และ 5. นำผลการปฏิบัติงานดีเด่นกรณีได้รับรางวัลดีเด่นต่างๆมาพิจารณา เห็นได้ว่าเรื่องป้านโฆษฯเป็นเรื่องย่อยๆ ทุกตำแหน่งพิจารณาตามเกณฑ์เหล่านี้
ผบช.น.กล่าวว่า บช.น.ได้พิจารณาแต่งตั้งออกนอกหน่วยทั้งสิ้น 73 ตำแหน่ง สับเปลี่ยนจากนอกหน่วยเข้าในหน่วย 68 ตำแหน่ง แยกเป็นระดับ รอง ผบก.ออกนอกหน่วย 14 ตำแหน่ง สมัครใจ 6 ตำแหน่งไม่สมัครใจ 8 ตำแหน่ง ผกก.ออกนอกหน่วย 59 ตำแหน่ง กรณีไม่สมัครใจ 44 ตำแหน่ง สมัครใจ 15 ตำแหน่ง เฉพาะกรณีป้ายโฆษณา ในระดับ ผกก. ไม่สมัครใจย้ายออก 38 ตำแหน่ง สมัครใจ 7 ตำแหน่ง กลุ่มที่ไม่สมัครใจแต่เรามีเหตุผลที่ย้ายเพราะมีความบกพร่อง ทั้งนี้ ก.ตร.เห็นชอบทุกตำแหน่ง กำชับว่าทำตามกฎระเบียบ โดยระดับรอง ผกก.และสารวัตรก็พิจารณาด้วยเกณฑ์เดียวกัน หากกระทบเรื่องป้ายฯก็พิจารณาเป็นเรื่องๆไป
“การแต่งตั้งครั้งนี้ผมพิจารณาโดยยึดประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ผมมีหน้าที่ดูแลหน่วยให้เรียบร้อย แต่งตั้งตามอำนาจหน้าที่ ยืนยันไม่มีเถยจิต (แปลว่า จิตคิดจะขโมย, ความคิดที่จะลัก หมายถึงความคิดจะถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขามิได้ให้ ด้วยอาการแห่งโจร คือมีเจตนาลัก ฉ้อ โกง ตระบัด เป็นต้น) กับใคร ทำเพื่อประโยชน์ประชาชน หากมีการฟ้องร้องก็ต้องรับสภาพ เป็นตำรวจ หนีไม่ได้ ผมว่าผมทำด้วยความเป็นธรรม ผมว่าแต่งตั้งถูกแล้วดำเนินการด้วยประโยชน์สูงสุดแล้ว ไม่มีเถยจิตกับใครเพราะผมไม่รู้จักใคร ผมยืนยันคนที่ย้ายไป 100 เปอร์เซ็นต์ถูกตั้งกรรมการหมด ล้วนเป็นเรื่องที่รัฐเสียหายทั้งสิ้น” ผบช.น.กล่าว
เมื่อถามว่า ในบัตรสนเท่ห์มีการตั้งข้อสังเกตว่าจงใจตั้งกรรมการ เพื่อหวังผลโยกย้าย พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งในนครบาล เมื่อตรวจสอบพบมีการรับเงินมิชอบ จึงรายงาน ตร. แล้วตั้งคณะกรรมการตรวจสอบตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้ว ใครจะมองอย่างไรก็แล้วแต่ ตนย้ำว่าไม่เกี่ยวทุกตำแหน่งเพื่อประโยชน์ชาติบ้านเมือง ถ้าอยู่ในตำแหน่งแล้วปล่อยให้บุกรุกที่ของรัฐหาประโยชน์คนนั้นก็ควรพิจารณาตัวเอง การแต่งตั้งทำตามกระบวนการ ทั้งนี้ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับป้ายบางคนก็ไม่ถูกโยกย้ายด้วยเหตุผลอื่นประกอบ เป็นคนทำงานดีก็ไม่ถูกย้าย ทำตามประกาศ คสช. ทั้งนี้มี ผกก.2 รายที่ดีรับรางวัลโรงพักดีเด่น แต่ไม่พิจารณาเลื่อนเป็นรองผบก.เนื่องจากถูกตั้งกรรมการเรื่องป้ายฯ ส่วนโรงพักดีเด่นรายอื่นๆ และกลุ่มที่อาวุโสได้ขึ้นหมด
ผบช.น.กล่าวว่า ในที่ประชุม ประธาน ก.ตร.พูดว่า ก.ตร.มีหน้าที่ทักท้วงให้เป็นไปตามระเบียบ ตนก็เรียนว่าทำตามระเบียบ ที่สงสัย ก.ตร.จะถามเป็นรายๆ ก.ตร.ได้บอกว่าหากมีการฟ้องร้อง ผบช.ต้องรับผิดชอบ ตนก็พร้อมรับผิดชอบ ยืนยันทำตามกฎหมายระเบียบ ทำตามระเบียบ หากทำตามกฎหมายแล้วไม่เป็นธรรมแล้วอะไรจะเป็นธรรมอีก กติกากลางมี จะเอาตามใจไม่ได้