พระนครศรีอยุธยา - เกิดเหตุเพลิงไหม้บริษัท เอพีซีบี อิเลคทรอนิกส์ ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ระดมกำลังรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำและสกัดเพลิง ขณะที่คนงานหนีตายกันวุ่น บาดเจ็บ 15 รายจากการสำลักควัน
เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ (12 ม.ค.) ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานบริษัท เอพีซีบี อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เลขที่ 139/2 หมู่ 2 ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตแผงวงจรไฟฟ้า
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมรถดับเพลิงจากพื้นที่ต่างๆ ใน จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง จนกระทั่งเพลิงเริ่มสงบ
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่าเพลิงได้ลุกไหม้จากสายการผลิตชั้นที่ 4 ของตัวโรงงาน หลังอุปกรณ์ไฟฟ้าเกิดระเบิดและมีประกายไฟไปโดนถังน้ำยาสารเคมี ทำให้เกิดไฟลุกขึ้น จากนั้นลามไปตามช่องระบายอากาศขึ้นไปที่ชั้น 5 และเพลิงได้ลามลงมาที่ชั้น 3
อย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุมีพนักงานที่เข้าทำงานอยู่ประมาณ 1,000 กว่าคนได้พากันหนีออกมาได้ และพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควัน 15 รายเจ้าหน้าที่ได้ลำเรียงส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ล่าสุดอาการปลอดภัยทั้งหมดแล้ว
นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพระนครศรีอยุธยา กล่าวระหว่างเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า หลังจากได้รับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวที่เป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนเครื่องอิเลคทรอนิคส์ โดยต้นเพลิงได้เกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 4 ของอาคารแล้วเพลิงได้ลุกลามขึ้นไปยังชั้น 5 และเพลิงได้ลามลงมาที่ชั้น 3 ของอาคารเนื่องจากอาคารดังกล่าวชั้นบนได้เป็นที่โล่ง ประกอบกับในวันนี้มีลมแรงทำให้เพลิงยิ่งลุกลามอย่างรวดเร็ว และเป็นอาคารสูงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปควบคุมเพลิงได้ ต้องรอรถกระเช้าเข้าพื้นที่ดังกล่าว
ต่อมานายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายวีระชัย นาคมาศ นายอำเภอบางปะอิน พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมโน ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และกำลังเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมายังที่เกิด พร้อมกับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าสกัดเพลิง และได้ประชาสัมพันธ์ไปยังโรงงานใกล้เคียงร่วมถึงชุมชนที่อยู่ในระแวกที่จะได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันให้มีการป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดจะควัน ซึ่งพบว่าโรงงานบางแห่งได้หยุดการทำงานให้พนักงานกลับบ้านก่อนหวั่นได้รับผลกระทบ
ขณะที่ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมโน ผบช.ภ.1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าพื้นที่เพื่อตรวจหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ว่าเกิดจากอะไร ส่วนมูลค่าความเสียหายขณะนี้ยังประเมินไม่ได้
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ห้องประชุม อาคารนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน น.ส.กฤตยาพร ทัพภะทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกันแถลงการทำงานโดยล่าสุดสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ทั้งหมดเหลือเพียงกลุ่มควันที่ยังคงต้องเดินหน้าระบายออกต่อไป
ด้านสารเคมีได้มีการจัดส่งกรมควบคุมมลพิษตรวจสอบบริเวณโดยรอบรัศมี 300 เมตร ของโรงงานยังไม่มีผลกระทบทางอากาศ ทางการนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ได้ทำการปิดกันน้ำตามท่อระบายน้ำต่างของนิคมไม่ให้น้ำที่เกิดจากการดับเพลิงลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรแล้วลุกลามไหม้แผงวงจรอีเล็คโทรนิค โดยเพลิงได้ลุกไหม้จากชั้นที่ 3 อยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเกิดจากส่วนใด มูลค่าความเสียหายที่เกิดกับตัวอาคารและระบบการผลิตประมาณ 200 ล้านบาท เบื้องต้นได้ให้โรงงานหยุดทำการผลิตก่อนเพื่อทำการปรับปรุงและตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ประมาณ 6 เดือน หรือนานกว่านั้นถ้ายังพร้อมในหลายๆด้าน
ส่วนการสืบสวนสอบสวน พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 ได้สั่งการ ทาง สภ.บางปะอิน ตั้งทีมสอบสวนขึ้นมาเพื่อสอบสวนพยานที่เป็นพนักงานและพยานบุคคล ในส่วนของการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุให้ พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบร่วมกับวิศวรกรในหลายด้านๆ เพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
