ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ เข้าเยี่ยมอาการชายไทยชาวกาญจน์ที่ติดอยู่ในซอกหินบนวนอุทยานเขาตาม่องล่ายกว่า 18 ชม.ดีขึ้นตามลำดับ คาดอีก 2 วันกลับบ้านได้ ขณะที่เจ้าตัวเล่าระทึกก่อนขึ้นไปค้างอยู่ในซอกหินหน้าผา มี 2 ชายหญิงมาชวนแล้วขึ้นไปโดยที่ไม้่รู้ตัว ก่อนที่มีชายชุดขาวมาปลุกให้ตื่นเรียกให้คนช่วย ด้านชาวประจวบฯ ร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของศาลตาม่องล่าย และเรื่องราวความอาถรรพ์ของเขาตาม่องล่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร ชะอำ ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 14 ค่ายพระมงกุฎเกล้า เจ้าหน้าที่วนอุทยานเขาตาม่องล่าย เจ้าหน้าที่หน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน ได้ขึ้นไปช่วยเหลือ นายมนต์ชัย ทองทับทิม อายุ 38 ปี ชาวอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ที่ปืนขึ้นไปติดอยู่ในซอกหินหน้าผาบนเขาวนอุทยานตาม่องล่าย ต.อ่าวน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังจากช่วยเหลือ นายมนต์ชัย ลงมาได้แล้ว นายมนต์ชัย ได้ถูกส่งตัวมาพักรักษาดูอาการอยู่ที่ตึกอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมา วันนี้ (6 ม.ค.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายปรีดา สุขใจ ป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพงศธร พร้อมขุนทด หัวหน้าวนอุทยานเขาตาม่องล่าย และนางสุพรรณี ประดิษฐ์สถาวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ พร้อมคณะแพทย์ พยาบาล ได้เข้าเยี่ยมดูอาการ ซึ่งทางแพทย์ พยาบาลได้ให้น้ำเกลือไปแล้ว 2 ขวด พร้อมตรวจดูความดันพบว่าเป็นปกติ แต่ยังคงมีร่องรอยตามลำตัวที่ถูกหนามเสมาเกี่ยวเป็นบาดแผล และตามตัวเริ่มมีอาการระบม
นอกจากนี้ แพทย์ยังได้ให้เกลือแร่เนื่องจากเห็นว่า นายมนต์ชัย ยังมีอาการอ่อนเพลียอยู่ โดยภาพรวมเบื้องต้นพบอาการของนายมนต์ชัย เริ่มดีขึ้นหลังจากได้พักผ่อนตลอดทั้งคืน และยังได้พูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสื่อมวลชน ทั้งนี้ คาดว่าอีกประมาณ 2 วัน นายมนต์ชัย น่าจะกลับบ้านได้
ทั้งนี้ นายมนต์ชัย ได้เล่ารายละเอียดเหตุการณ์ก่อนที่จะไปติดอยู่บริเวณหน้าผาซอกหินบนเขาวนอุทยานตาม่องล่ายว่า ตนเดินทางมาจากจังหวัดชุมพร เพื่อจะเดินทางกลับบ้านที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี แต่ระหว่างทางได้ลงที่อำเภอทับสะแก และเข้าไปหาพระที่วัดในอำเภอทับสะแก ซึ่งทางพระได้มอบเงินให้ส่วนหนึ่งติดตัวเป็นค่ารถกลับบ้าน
หลังจากนั้น จึงโดยสารรถยนต์มาลงที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อจะนั่งรถไฟเที่ยว 22.00 น.ของวันที่ 4 ม.ค.58 กลับบ้าน
ระหว่างนั่งรอรถไฟตนจึงสั่งเบียร์ เหล้าขาว และเครื่องดื่มชูกำลังมานั่งดื่ม และไปหาซื้อไม้กวาดอ่อนมาถวายที่ตั้งรูปเหมือนตาม่องล่าย แม่รำพึง ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเคารพที่บริเวณสวนสาธารณเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ตนยังได้ใช้ไม้กวาดที่ซื้อมากวาดขยะบริเวณดังกล่าวก่อนที่จะว่าจ้างเมล์เครื่องให้ไปส่งที่ด้านหน้าค่ายลูกเสือวนอุทยานตาม่องล่าย
เมื่อไปถึงตนได้พบกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 4-5 คน และพบหญิงชายคู่หนึ่งใส่เสื้อยืดสีดำกางเกงขาก๊วย อายุประมาณ 38-40 ปี เข้ามาทักทาย และชวนตนว่า “ไปเดินเที่ยวในป่ากันไหม” ตนก็ตอบว่า “ไป” ระหว่างนั้นกลุ่มวัยรุ่นได้พูดว่า “พี่คนดีเขายังไม่ขึ้นกันไป แล้วคนบ้าจะไปไหวหรือ”
นายมนต์ชัย บอกว่า ระหว่างที่กลุ่มวัยรุ่นพูดกับตนนั้นเหมือนกับว่ากลุ่มวัยรุ่นเห็นตนยืนอยู่เพียงคนเดียว เหมือนไม่เห็นสองหญิงชายที่มาชวนตนไปเดินเที่ยวในป่า จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ตนจึงได้บอกลาเด็กๆ ว่าจะขึ้นเขาแล้ว เมื่อตนขึ้นไปถึงคอยดูตนจะเขย่ากิ่งไม้บนเขาให้ดู
“หลังจากผมเดินขึ้นเขาไปกับหญิงและชายคู่นั้นแล้ว ผมยอมรับว่าผมจำอะไรไม่ได้ และมารู้สึกตัวอีกครั้งก็เหมือนมีลุงใส่ชุดขาวมาปลุกให้ผมตื่นขึ้น แล้วพูดว่า ไอ้หนุ่ม ตื่นได้แล้วมานอนที่นี่ทำไม เมื่อผมรู้ตัวตอนนั้นมองไม่เห็นใครเลย เนื่องจากมืดมาก เห็นเพียงแสงจันทร์ ผมจึงพยายามหาทางลงมาจากเขา แต่ปรากฏว่า ผมลื่นไถลตกลงมาในซอกหินเป็นระยะทางประมาณ 4-5 เมตร แต่โชคดีที่ผมสามารถคว้าเถาวัลย์ไว้ได้ และติดอยู่ในซอกหน้าผาหิน จนกระทั่งมีคนมาช่วย” นายมนต์ชัย กล่าว
นายมนต์ชัย เล่าต่อว่า ตนได้ร้องตะโกนให้คนช่วยด้วย ช่วยด้วยอยู่นาน และฉีกแขนเสื้อตัวเองและใช้ไฟแช็กที่จุดบุหรี่มาจุดเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ชาวบ้านด้านล่างได้เห็น และได้ยินเสียงชาวบ้านด้านล่างตอบขึ้นมาว่าอย่าเดินไปไหนเดี๋ยวจะไปตามเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ มาช่วยเหลือ
“ระหว่างนั้นผมก็ยังติดอยู่ในซอกหิน จนกระทั่งช่วงเช้าได้มีเจ้าหน้าที่วนอุทยานเขาตาม่องล่าย และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานขึ้นมา แต่เขาลงมาช่วยเหลือผมไม่ได้ แต่ได้โยนขวดน้ำขนาดเล็กลงมาให้ 3-4 ขวด ซึ่งผมได้กินน้ำจนหมดเนื่องจากหิวน้ำเป็นอย่างมาก และยังเห็นเฮลิคอปเตอร์มาบิน จนกระทั่งตำรวจพลร่ม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินเท้าขึ้นมาช่วยในช่วงบ่าย แล้วลงมาได้อย่างปลอดภัย ผมยอมรับว่าช่วงที่ติดอยู่บนเขาได้บอกกล่าวไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดเวลาว่า และหากไม่ได้เถาวัลย์ผมก็คงตกลงมาด้านล่างไปแล้ว” นายมนต์ชัย กล่าว
นายมนต์ชัย กล่าวอีกว่า ตนไม่มีญาติพี่น้อง และลูกเมีย ซึ่งใกล้ถึงเวลาที่จะต้องไปผ่าตัดเอาเหล็กที่ใส่ไว้ในขาข้างขวาออก ที่ผ่านมา ตนเคยทำงานก่อสร้าง และตกตึกจึงผ่าตัดและใส่เหล็กเอาไว้ ก่อนที่จะมาที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็ไปรับจ้างคัดปลาอยู่ที่แพปลาในจังหวัดชุมพร
ขณะที่ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวต่อ นายมนต์ชัยว่า “ดีแล้วที่ปลอดภัยกลับมา ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเดินทางกลับบ้าน” หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้บอกให้่ทางโรงพยาบาลช่วยดูแลนายมนต์ชัย ก่อนเดินทางกลับ
ด้าน นายพงศธร พร้อมขุนทด หัวหน้าวนอุทยานเขาตาม่องล่าย กล่าวว่า ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ มีความเป็นห่วงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตอนแรกคิดว่าเป็นนักท่องเที่ยว แต่ตอนนี้ได้ทำรายงานอย่างละเอียดส่งให้ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้รับทราบรายละเอียด ตลอดจนประวัติความเป็นมาของนายมนต์ชัย แล้ว
อย่างไรก็ตาม ต่อไปคงต้องติดป้ายประชาสัมพันธ์ทั้งภาษาไทย และภาษอังกฤษให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับทราบก่อนว่าหากจะเดินทางขึ้นไปบนเขาตาม่องล่าย ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำทาง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน เนื่องจากพื้นที่เป็นภูเขาสูงชัน และมีต้นหนามเสมาเป็นจำนวนมาก
ด.ต.เมฆ พรหมลาย หัวหน้าชุดกู้ภัยของตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร ชะอำ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก ตชด.14 ตนพร้อมทีมอีก 5 คน จึงเดินทางมาพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยบิน ตร.พลร่มค่ายนเรศวร โดยระหว่างบินอยู่เหนือเขาตาม่องล่าย ได้พบเห็นนายมนต์ชัย ติดอยู่ในซอกหินอยู่ แต่ไม่สามารถที่จะหย่อนเชือกลงไปได้ เนื่องจากภูเขามีความสูงมาก
อีกทั้งจุดที่นายมนต์ชัย ติดอยู่ในซอกหน้าผาหินนั้นก็ค่อนข้างแคบ อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 520 ฟุต ขณะที่เชือกมีความยาวเพียง 120 ฟุตเท่านั้น จึงได้นำเฮลิคอปเตอร์บินกลับมาลงจอดที่สนามกีฬาประจวบคีรีขันธ์ เพื่อวางแผนการช่วยเหลือใหม่ทางภาคพื้นดิน
จากนั้นเวลา 10.45 น. ตนพร้อมลูกทีมได้ออกเดินเท้าขึ้นเขาไปพร้อมอุปกรณ์การช่วยเหลือ โดยมีเจ้าหน้าที่วนอุทยานเขาตาม่องล่าย เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์คอยอยู่ด้านบนแล้ว
หลังจากนั้น จึงได้ใช้เชือกให้ จ.ส.ต.วัชระ แดงรักษ์ ชุดกู้ภัย ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร โรยตัวลงไปยังจุดที่นายมนต์ชัย ติดอยู่ประมาณ 10 เมตร เพียงคนเดียว หลังจากนั้นได้ใช้อุปกรณ์รัดตัวนายมนต์ชัย แล้วช่วยกันดึงกลับขึ้นมาอีกด้านจนอยู่ในจุดที่ปลอดภัย และให้น้ำดื่มโดยมีการพัก หลังจากนั้น จึงผลัดเปลี่ยนกันนำนายมนต์ชัย ลงมาจากเขาไปจนถึงด้านล่างเมื่อเวลาประมาณ 14.15 น.
“จุดที่นายมนต์ชัย ติดอยู่นั้นต้องยอมรับว่าแคบมากพื้นที่เพียงนิดเดียว และยิ่งต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง ผมและทึมงานทุกคนรู้สึกดีใจที่ช่วยเหลือนายมนต์ชัย ลงมาได้อย่างปลอดภัย” ด.ต.เมฆ พรหมลาย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังชาวบ้านทราบข่าวว่า นายมนต์ชัย เดินขึ้นเขาไปกับชายหญิงคู่หนึ่งโดยไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่ททราบข่าวต่างร่ำลือกันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของศาลตาม่องล่าย และเรื่องราวความอาถรรพ์ของเขาตาม่องล่าย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่านายมนต์ชัย จะเดินขึ้นไปบนเขาแห่งนี้ได้ เนื่องจากมีความสูงมาก และยังคงเป็นปริศนาต่อไปว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้นายมนต์ชัย เดินขึ้นไปบนเขาตาม่องล่ายในครั้งนี้