ประจวบคีรีขันธ์ - จนท.กรมอุทยานแห่งชาติฯ ลงสำรวจพบดอกไม้ทะเลแปลงใหญ่สมบูรณ์ ประดุจพรมสีชมพูผืนใหญ่ที่บริเวณเกาะจาน และเกาะท้ายทรีย์ ใน อช.หาดวนกร อำเภอทับสะแก ประจวบฯ จนท.ระบุไม่เน้นปริมาณนักท่องเที่ยวแต่มุ่งเน้นการรักษาดูแลทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากมีตัวอย่างในพื้นที่อื่นที่ปะการังเสื่อมโทรมในปัจจุบัน และถือเป็นหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของเมืองไทยในทะเลอ่าวไทยตอนกลาง
วันนี้ (16 มิ.ย.) นายนิธิ อาจสมรรถ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุกรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วย นายพีรวัฒิ สิโรตม์พิพัฒ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ (อช.) หาดวนกร อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางไปสำรวจความอุดมสมบูรณ่ของแนวปะการังน้ำตื้นที่บริเวณเกาะจาน และเกาะท้ายทรีย์ ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ราว 7 กม.
นายนิธิ อาจสมรรถ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่3สาขาเพชรบุรี กล่าวว่า การลงดำสำรวจของเจ้าหน้าที่ฯ และสื่อมวลชนพบว่า แนวปะการังที่บริเวณด้านหน้าของเกาะ มีความสมบูรณ์ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะแปลงดอกไม้ทะเล ประดุจพรมสีชมพูเป็นผืนใหญ่ มีสีสันสวยงามเป็นอย่างมาก ขนาดพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ และยังมีฝูงปลาชนิดต่างๆ แหวกว่ายอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งปลาการ์ตูนอินเดียนแดง ปลานกแก้ว
สิ่งสำคัญต้องช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติใต้ท้องทะเลที่นี่ไว้ให้ดี เพราะเป็นแนวปะการังน้ำตื้น ยิ่งช่วงนี้เมื่อน้ำทะเลลงจะมองเห็นปะการังจากด้านบนได้อย่างชัดเจน แต่หากเป็นช่วงน้ำลงเยอะก็จะไม่สามารถลอยตัวเข้าไปใกล้ได้เนื่องจากน้ำตื้น และอาจโดนแนวปะการัง
นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ปะการังใต้ท้องทะเลที่เกาะจาน และเกาะท้ายทรีย์ แห่งนี้ ซึ่งอยู่ในระดับน้ำตื้นตั้งแต่ 2 เมตร ถึง 6 เมตร ยังคงมีความสมบูรณ์ และเป็นธรรมชาติอยู่มาก เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดวนกร มีการจัดการที่ดี สิ่งสำคัญนับว่าเป็นแปลงดอกไม้ทะเลที่สวยงาม และสมบูรณ์เป็นแหล่งใหญ่ในทะเลอ่าวไทยตอนกลางในแถบนี้
อาจพูดได้ว่าเป็น “อันซีนของเมืองไทย” ก็ว่าได้ ไม่เพียงเฉพาะดอกไม้ทะเล แต่ยังมีปะการังถ้วยส้ม ซึ่งมีสีสันสวยงาม เปรียบเสมือนช่อดอกไม้ขนาดเล็ก รวมไปถึงปะการังเขากวาง ปะการังชนิดอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากที่สมบูรณ์ ซึ่งล่าสุด ได้ประสานไปยังศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 1 จังหวัดชุมพร ให้มาสำรวจเพื่อดำเนินการวางทุ่นไข่ปลา ทุ่นจอดเรือ และจุดดำน้ำ ในช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งมาตรการในการป้องกันแนวปะการังน้ำตื้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
ด้าน นายพีรวัฒิ สิโรตม์พิพัฒ หัวหน้า อช.หาดวนกร กล่าวว่า นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าเกาะท้ายทรีย์ ยังมีค้นกัลปังหาอีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่สวยงาม เราไม่ได้มุ่งเน้นปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปเที่ยวชมมากนัก สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องการให้ความสวยงามของแนวปะการังในเขต อช.หาดวนกร มีความสวยงาม ไม่เกิดความเสื่อมโทรมเหมือนกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มุ่งเพื่อการท่องเที่ยว จนทรัพยากรธรรมชาติได้รับผลกระทบ ดังจะเห็นได้จากแหล่งดำน้ำดูปะการังอื่นๆ ที่กำลังเสื่อมโทรมในปัจจุบันนี้
และต้องกล่าวว่า ท่ามกลางความสวยงาม ซึ่งดอกไม้ทะเลถือเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง แต่บริเวณปลายหนวดของดอกไม้ทะเลจะมีพิษหากไปโดนจะเกิดผื่นคันสำหรับผู้ที่แพ้
สำหรับแหล่งดำน้ำที่นี่จะปิดโดยธรรมชาติตั้งแต่เดือน พ.ย.ถึง ก.พ.ของทุกปี เนื่องจากคลื่นลม จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แนวปะการังที่นี่สมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ละวันก็มีนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติบ้างที่ติดต่อ และจองเข้ามาไปดำน้ำที่บริเวณเกาะจาน และเกาะท้ายทรีย์
"นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาดำน้ำที่นี่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำทะเลค่อนข้างใส และปะการังที่นี่ค่อนข้างสมบูรณ์มาก ไม่เหมือนกับแหล่งอื่นๆ บางแห่งที่เสื่อโทรมเนื่องจากการใช้ประโยชน์ทางการท่องเที่ยว ต้องยอมรับว่าที่นี่ทางเจ้าหน้าที่ อช.หาดวนกร จะมีการให้คำแนะนำและสอนการดำน้ำในเบื้องต้นก่อนที่จะลงเรือมา
สิ่งสำคัญสอนให้ไม่ยืนและจับต้องปะการัง เพราะจะทำให้แนวปะการังเสียหายได้ นอกจากนั้นยังเป็นผู้พานักท่องเที่ยวลงดำน้ำตามจุดที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีซึ่งมีการอนุรักษ์ เพราะจะทำให้แนวปะการังที่นี่คงความสวยงามไปตลอด"
