ฉะเชิงเทรา - ผู้ตรวจการสำนักนายกฯ ลงพื้นที่เมืองแปดริ้ว รับฟังปัญหาความต้องการใช้น้ำประปา จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมเตรียมบริหารจัดการแหล่งต้นทุนน้ำดิบเชื่อมโยง ทั้งในจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว รับมือภัยแล้งในระยะยาว และเตรียมเดินหน้าจัดหาแหล่งน้ำสำรองเพื่อผลิตน้ำประปาสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง
วันนี้ (26 ธ.ค.) นายจิรชัย มูลทองโร่ย หัวหน้าผู้ตรวจราชการ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังสำนักงานประปาส่วนภูมิภาค อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อรับฟังปัญหาความต้องการการใช้น้ำประปาของประชาชนในพื้นที่ และการเตรียมหาแหล่งต้นทุนน้ำดิบเพื่อรับมือต่อปัญหาภัยแล้งในพื้นที่เชื่อมโยงลุ่มน้ำปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา และสระแก้ว จากผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นายจิรชัย กล่าวว่า สำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ดูแลปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราในวันนี้ ก็เพื่อรับทราบปัญหาของประชาชน ซึ่งการเดินทางมาพบกับนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และนายกเทศมนตรีต่างๆ ก็เพื่อรับฟังปัญหาจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับประชาชนที่ยังไม่มีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค เพื่อสนองตอบนโยบายของรัฐบาลที่จะให้มีการบริหารจัดการน้ำอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชน และเชื่อว่าปัญหาในลักษณะดังกล่าวน่าจะยังมีอยู่อีกหลายพื้นที่
“ในอนาคตจะได้เข้ามาประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในการจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการด้านการใช้น้ำอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพ เพื่อให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ และหาทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนต่อไป และตนในฐานะประธานกรรมการ การประปาส่วนภูมิภาค ยังจะติดตามโครงการก่อสร้างโรงกรองน้ำเขื่อนสียัด ที่อำเภอท่าตะเกียบ ว่า หากดำเนินการก่อสร้างแล้วจะมีปัญหาอุปสรรคใดหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการในเบื้องต้น”
นายจิรชัย ยังกล่าวถึงการเตรียมการรับมือปัญหาภัยแล้งว่า ขณะนี้จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดของแหล่งน้ำก่อนว่า มีเพียงพอต่อการบริหารจัดการประปาหรือไม่ ซึ่งจังหวัดฉะเชิงเทรา อาจมีผลกระทบเรื่องน้ำเค็มหนุน ส่วนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ขณะนี้ได้เตรียมประสานไปยังกรมชลประทาน เพื่อผลักดันน้ำจากแหล่งน้ำต้นทุน ทั้งจากอ่างฯ สียัด และห้วยพระปรง เข้าผลักดันน้ำเค็มที่รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่แล้ว
“ในปีนี้มั่นใจว่าจะสามารถรับมือต่อสถานการณ์ภัยแล้งได้ เพราะต้นทุนน้ำดิบมีเพียงพอ และยังมีโครงการขยายแหล่งต้นทุนน้ำในส่วนเขื่อนห้วยพระปรง ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดปราจีนบุรี ที่มีความจุน้ำถึง 97 ล้านลูกบาศก์เมตร และมั่นใจได้ว่าในปี 2559 จะเริ่มดำเนินการได้ เพื่อให้เป็นแหล่งต้นทุนน้ำเชื่อมโยงในพื้นที่ทั้งนครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว สำหรับแก้ปัญหาภัยแล้งในระยะยาว” นายจิรชัย กล่าว