อุดรธานี - ชลประทานอุดรธานีจ้างเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำความสะอาด ซ่อมแซมคลองชลประทาน สร้างรายได้ทดแทนจากการงดปลูกข้าวนาปรัง
นายสมพร ดำนุ้ย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานโครงการชลประทานอุดรธานีได้ออกประกาศขอความร่วมมือเกษตรกรที่อาศัยอยู่รอบบริเวณเขตโครงการชลประทาน งดการปลูกข้าวนาปรัง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง
ทั้งนี้ สำนักงานโครงการชลประทานอุดรธานีได้มีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรในเบื้องต้น โดยได้ว่าจ้างเกษตรกรในพื้นที่ชลประทาน ซึ่งว่างเว้นจากการปลูกข้าวนาปรัง มาช่วยกันขุดลอกคลองชลประทาน
ทั้งนี้ ได้ว่าจ้างเกษตรกรในพื้นที่ประมาณ 600 คนมาทำงานทำความสะอาด เก็บต้นหญ้า ซ่อมแซมคลองส่งน้ำ โดยเกษตรกรได้รับค่าจ้างวันละ 300 บาท ซึ่งเป็นค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมาย โครงการดังกล่าวจะสิ้นสุดประมาณเดือนมีนาคม 2558 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการที่ไม่ได้ทำนาปรัง
ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ 2 แห่ง และขนาดกลาง 13 แห่งของจังหวัดอุดรธานี ขณะนี้มีน้ำเหลืออยู่เพียง 151.565 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 54.95% จากปริมาณน้ำทั้งหมด 275.830 ล้าน ลบ.ม.
โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยหลวงที่มีความจุ 135.570 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ใช้ในการเลี้ยงประชาชนในตัวเมืองอุดรธานีทั้งหมด ในตอนนี้มีน้ำเหลืออยู่ในอ่างเพียง 59.361 ล้าน ลบ.ม. หรือ 43.79% ซึ่งต่ำกว่าในระยะเดียวกันของปี 2556 ที่มีน้ำเหลืออยู่ในอ่างถึง 64.38% ซึ่งน้ำจำนวนดังกล่าวนี้จะต้องบริหารจัดการใช้ให้ได้นานที่สุด อาจจะต้องถึงเดือนสิงหาคม 2558 หากว่าในอนาคตเกิดภัยแล้งติดต่อกันยาวนาน
อย่างไรก็ตาม จำนวนน้ำที่เหลืออยู่ในอ่างส่วนหนึ่งนั้นจะต้องเตรียมเอาไว้ให้เกษตรกรทำการตกกล้าทำนาปีในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน อีกส่วนหนึ่งก็ต้องกันเอาไว้เพื่อเป็นน้ำอุปโภคบริโภค และจนถึงเดือนเมษายน 2558 คาดว่าจะมีน้ำเหลืออยู่ประมาณ 30 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งหลังจากเดือนเมษายนแล้ว หากเกิดภาวะภัยแล้งฝนไม่ตกตามฤดูกาลก็ยังสามารถใช้น้ำได้อีกประมาณ 15 ล้าน ลบ.ม.