ทุนไทยเปิดแชมเปญปล่อยเรือสัญชาติไทยลงน้ำโขงแล้ว จ้องดึงจีนเที่ยวไทยเพิ่มอีกทาง

เชียงราย - ทุนไทยตัดริบบิ้น-เปิดแชมเปญ ปล่อยเรือสัญชาติไทยลงน้ำโขง บริการนำเที่ยวไทย-พม่า-ลาว-จีน อย่างเป็นทางการ จ้องดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยอีกทาง หลัง สป.จีนดันคนออกเที่ยวนอก 500 ล้านคน

ดร.สุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม, นายรัชกฤช สถิรานนท์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย, น.อ.ภานุ รัตนันทวาที ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ฯลฯ ร่วมกันเปิดเส้นทางเดินเรือ และแนะนำเรือกาสะลองคำ 2 ของบริษัทแม่โขงเดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด ที่ท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยมี น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ พร้อมตัวแทนหน่วยงานราชการร่วมแสดงความยินดีคับคั่ง

น.ส.ผกายมาศกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีเรือสัญชาติไทยให้บริการนำเที่ยวในแม่น้ำโขง ให้บริการตั้งแต่ท่าเรือในเขตสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน จีนตอนใต้ มาจนถึงท่าเรือ อ.เชียงแสน และเชื่อมไปยังเมืองหลวงพระบาง แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว 3 ลำ คือ เรือกาสะลองคำ 2 ยาว 26.80 เมตร กว้าง 5.20 เมตร กินน้ำลึก 2 เมตร ความเร็วสูงสุด 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บรรทุกผู้โดยสารได้กว่า 116 คน, เรือกาสะลอง 1 กว้าง 24 เมตร ยาว 4 เมตร กินน้ำลึก 1.55 เมตร ความเร็วสูงสุด 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บรรทุกผู้โดยสารได้จำนวน 80 คน และเรือแม่โขงเดลต้ากว้าง 40.40 เมตร ยาว 5 เมตร ความเร็วสูงสุด 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บรรทุกผู้โดยสารได้ 120 คน

ดร.สุวัตรกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีก็มีการหารือเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวทางเรืออย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาสังเกตเห็นประเทศสิงคโปร์มีศักยภาพในด้านนี้ นำเรือแวะตามจุดต่างๆ ของประเทศไทย เช่น ภูเก็ต แหลมฉบัง ฯลฯ แต่ไทยเราไม่ได้มีบริการด้านนี้เท่าใดนัก ดังนั้นจึงต้องคิดใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ประเทศไทย โดยเฉพาะเรามีศักยภาพทั้งแม่น้ำเจ้าพระเจ้า เกาะสมุย ภูเก็ต ตรัง พังงา ฯลฯ ซึ่งได้ข้อสรุปในหลายประเด็น และคาดว่าจะได้นำมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในเร็วๆ นี้ และยิ่งมาเห็นการพัฒนาของเอกชนไทยในแม่น้ำโขง คือ บริษัทแม่น้ำโขงเดลต้าฯ ทางรัฐบาลที่มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านนี้อยู่แล้วก็ยิ่งต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่

ดร.สุวัตรกล่าวอีกว่า ช่วงก่อนฤดูหนาวการท่องเที่ยวทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ต่เดือน พ.ย.-ธ.ค.ก็เริ่มกระเตื้องขึ้น ซึ่งปี 2556 ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยว 2.2 ล้านล้านบาท แต่ในปี 2557 ถึงสิ้นปีก็สรุปได้เพียง 1.8 ล้านล้านบาท ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในปี 2558 นอกจากการสนับสนุนจากภาครัฐ ก็คือ การเพิ่มศักยภาพของภาคเอกชน ซึ่งกรณีของเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขง คาดว่าจะไม่ใช่รองรับเฉพาะนักท่องเที่ยวไทย แต่ก้าวไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรป อเมริกา และทั่วโลก

ดร.สุวัตรบอกว่า และหากภาคเอกชนเพิ่มศักยภาพ มีคุณภาพที่ดี จะทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะจีน ที่ตั้งเป้าจะให้คนจีนออกไปท่องเที่ยวทั่วโลก 500 ล้านคน ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีอย่างมาก แต่ปริมาณก็ไม่สำคัญเท่าคุณภาพ ภาคเอกชนจึงมีบทบาทที่จะสามารถเพิ่มศักยภาพการเดินเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงตอนบนนี้ได้

ด้านนายชยกฤษณ์ นิสสัยสุข นายกเทศมนตรี ต.เวียงเชียงแสน จ.เชียงราย กล่าวว่า หลังการท่าเรือแห่งประเทศไทยก่อสร้างท่าเรือเชียงแสน 2 ที่ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน แล้วเสร็จมานานนับปี รัฐบาลมีนโยบายให้เทศบาลฯ เข้ามาบริหารท่าเรือเชียงแสน 1 ให้เป็นท่าเรือท่องเที่ยว แต่จนถึงขณะนี้เทศบาลฯ ก็ยังไม่ได้เข้ามาดูแลอย่างเต็มตัวเพราะต้องรอมติ ครม.รองรับก่อน ทำให้ทุกวันนี้ท่าเรือเชียงแสน 1 ยังอยู่ภายใต้การดูแลของกรมธนารักษ์ที่จ้างเทศบาลฯ มาดูแลเท่านั้น นอกจากนี้ยังต้องเปิดให้เรือสินค้าจีนเข้าเทียบท่าเพื่อขึ้นลงสินค้าเป็นครั้งคราวด้วย