ASTVผู้จัดการรายวัน - “ทีซีซี” ลงทุนต่อยอด ผุด 3 โครงการ ทุ่ม 2 พันล้านปี 58-59 เร่งพัฒนาโครงการ “เอเชีย ทีค” เฟส 2-4 บนพื้นที่เกือบ 90 ไร่ทั้งฝั่งพระนครและฝั่งธนฯ พร้อมปรับโฉมโครงการ “เกตเวย์ เอกมัย” เป็น “คอมมูนิตี ชอปปิ้ง เซ็นเตอร์” แห่งแรกของไทยที่มีขนาดพื้นที่ร้านค้าพอเหมาะเพียง 2.5-3 หมื่นตารางเมตร ก่อนฟื้น “เซ็นเตอร์ พอยท์ สยามสแควร์” เจาะกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-25 ปี
นายณภัทร เจริญกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มรีเทล บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์” เปิดเผยว่า ในปี 2558 บริษัทฯ ตั้งงบประมาณ 2,150 ล้านบาทในการพัฒนาโครงการใหม่เพิ่ม 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์” เฟส 2 มูลค่า 1.5 พันล้านบาท โครงการ “เกตเวย์ เอกมัย” มูลค่า 500 ล้านบาท และโครงการปรับโฉม “ดิจิตอล เกตเวย์ สยามสแควร์” เป็น “เซ็นเตอร์ พอยท์ ออฟ สยามสแควร์” มูลค่า 150 ล้านบาท
ในส่วนของโครงการ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์” เฟส 2 จะขยายพื้นที่เพิ่มอีก 16 ไร่ บริเวณที่จอดรถด้านข้างโครงการติดกับลานกิจกรรมใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อก่อสร้างโรงแรม รวมถึงห้องจัดประชุมสัมมนาในการรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงร้านอาหารสำหรับครอบครัว และร้านค้าแฟชั่นแบรนด์ดังบางประเภท โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2559 จากนั้นยังจะพัฒนาพื้นที่ฝั่งตรงข้าม คือบริเวณถนนเจริญนคร อีกประมาณ 30 ไร่เป็นเฟส 3 ต่อด้วยพื้นที่อีกประมาณ 40 ไร่เป็นโครงการในเฟส 4
สำหรับการพัฒนาโครงการ “เกตเวย์ เอกมัย” จะเป็นการปรับปรุงใหม่ให้แล้วเสร็จในปี 2558 โดยจะมีลักษณะเป็น “คอมมูนิตี ชอปปิ้ง เซ็นเตอร์” แห่งแรกของประเทศไทยโดยกำหนดพื้นที่ของร้านค้าประมาณ 2.5-3 หมื่นตารางเมตร ซึ่งถือเป็นการผสมผสานรูปแบบของ “คอมมูนิตี มอลล์” และ “ชอบปิ้ง เซ็นเตอร์” ด้วยการลดจุดอ่อนด้านพื้นที่ของร้านค้าใน “คอมมูนิตี มอลล์” ซึ่งมีขนาดเล็กประมาณ 6-8 พันตารางเมตร และพื้นที่ขายของ “ชอปปิ้ง เซ็นเตอร์” ที่มีพื้นที่มากประมาณ 6 หมื่น-1 แสนตารางเมตร
“การพัฒนาโครงการเกตเวย์ เอกมัย ถือเป็นการตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความต้องการหลากหลาย ครอบคลุมพื้นที่ในย่านทองหล่อ เอกมัย พระโขนง และถนนพระรามที่ 4 ภายในรัศมี 5 กิโลเมตรซึ่งไม่มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่รองรับ โดยมีจุดเด่นคือพื้นที่ตั้งโครงการซึ่งเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า BTS”
ส่วนโครงการ “เซ็นเตอร์ พอยท์ ออฟ สยามสแควร์” ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปี 2558 เช่นกันถือเป็นการพลิกฟื้นตำนานแหล่งศูนย์รวมวัยรุ่นให้กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง โดยจะเน้นปรับปรุงร้านค้าให้เป็น “บิวตี้ แฟชั่น” มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีอายุ 15-25 ปี โดยจะพัฒนาพื้นที่ด้านหน้าโครงการให้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมและพบปะสังสรรค์ของกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น
นายณภัทรกล่าวด้วยว่า ในส่วนของโครงการ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์” จากเดิมที่เคยตั้งเป้าหมายว่าจะมีลูกค้าประมาณ 1.5 หมื่นคน แต่ปรากฏว่ามีผู้ใช้บริการมากถึงวันละประมาณ 2.5-3 หมื่นคน คิดเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 60% นักท่องเที่ยวไทย 40% โดยคาดว่าในปี 2557 จะมีรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 450 ล้านบาทในปี 2558 พร้อมกับปรับสัดส่วนลูกค้าให้เป็น 50:50