กำแพงเพชร - เมืองกล้วยไข่เกิดอุบัติเหตุถี่ยิบ วันเดียวดับ 4 ศพซ้อน รายแรก 3 พ่อ-แม่-ลูกชาวต่างด้าวบึ่ง จยย.ไปตลาดนัด ถูกมิวเซเว่นเสยท้ายพ่อ-แม่ดับคาที่ ลูกสาหัส อีกรายอีแต๊กชนรถเกี่ยวข้าวดับคาที่ 1 ตกกลางคืนเกิดเหตุสิบล้อเร่งเครื่องให้ทันไฟเหลืองชน จยย.เสี่ยไร่อ้อยดับ ก่อนลากไปไกลร่วม 300 เมตร
รายงานข่าวจากจังหวัดกำแพงเพชรแจ้งว่า ช่วงบ่ายถึงค่ำวานนี้ (17 ธ.ค.) ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นในจังหวัดกำแพงเพชรหลายครั้ง ทำให้ภายในวันเดียวมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมดมากถึง 4 รายด้วยกัน
อุบัติเหตุรายแรกทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างด้าวสัญชาติพม่า 2 ราย เกิดขึ้นในช่วงบ่าย บนถนนสายกำแพงเพชร-พิจิตร หมูที่ 4 บ้านโพธิ์สวัสดิ์ ต.สระแก้ว อ.เมืองกำแพงเพชร ต่อมา พ.ต.ท.ไพศาล วรรณชัย พงส.สภ.เมืองกำแพงเพชร จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชร
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย นอนจมกองเลือดอยู่บนถนน ห่างออกไปประมาณ 3 เมตรพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง มีลูกสาวสัญชาติพม่าร่ำไห้กอดศพแม่ไว้แน่น และมีผู้บาดเจ็บเป็นชายอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรได้ช่วยเหลือนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชรให้แพทย์ทำการรักษาอาการบาดเจ็บ
นอกจากนี้ ยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสมาย สีฟ้า-ดำ หมายเลขทะเบียน กบค 329 กำแพงเพชร สภาพด้านท้ายถูกชนไฟท้ายแตก ล้อบิดเบี้ยว ทะเบียนหลุดออกจากตัวรถ ห่างออกไปประมาณ 20 เมตรพบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 3640 จ.เพชรบูรณ์ จอดอยู่ข้างถนน สภาพด้านหน้าไฟส่องสว่างด้านขวาแตก มีคราบเลือดติดอยู่กับรถ ส่วนคนขับทราบชื่อตามใบอนุญาตขับขี่คือ นายอนุศักดิ์ อาคะญา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/1 หมู่ที่ 5 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นชาวต่างด้าวสัญชาติพม่าที่มาขายแรงงานในไทย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ามาทางเข้าตัวเมืองกำแพงเพชร โดยมีนายทุย ลูกชายเป็นคนขับ นายเมา พ่อนั่งกลาง และนางซ่า นั่งซ้อนท้ายมา ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์จะไปซื้อของตลาดนัดบริเวณสามแยกบ้านโพธิ์สวัสดิ์ จากนั้นได้มีรถยนต์คู่กรณีขับพุ่งชนด้านท้ายรถอย่างแรง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบร่องรอยการชนและสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ บันทึกเป็นหลักฐานดำเนินคดี หลังจากดูที่เกิดเหตุแล้วได้ควบคุมตัวนายอนุศักดิ์ อาคะญะ ไปทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร จากนั้นรอให้นายทุย สัญชาติพม่า รักษาอาการบาดเจ็บก่อนจึงจะเดินทางไปสอบสวนอีกครั้ง เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างนำศพส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชรให้แพทย์ชันสูจน์พลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะให้ญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ค่ำวันเดียวกัน ร.ต.ท.อาวุธ เกิดยินดี พงส.สภ.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่า มีรถอีแต๊กชนกับรถเกี่ยวข้าวมีผู้เสียชีวิต 1 ราย จึงได้รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณถนนสายพรานกระต่าย-วังพาน หมู่ 4 บ้านเหมืองด้วน ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย พบศพนายจง สีทอง อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 3/3 หมู่ 8 ต.ถ้ำกระต่ายทอง นอนตายคารถอีแต๊กสภาพคอหักเลือดไหลทะลักออกปากออกจมูก
สอบสวนทราบว่า นายจงได้ขับรถอีแต๊กมาจากวังพานเพื่อกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุชนประสานงากับรถเกี่ยวข้าว ซึ่งกลับจากรับจ้างเกี่ยวข้าวที่ตำบลหนองหัววัว กำลังนำลงจากรถเทรลเลอร์เพื่อเลี้ยวเข้าบ้าน ซึ่งมีนายชยานนท์ มาน้อย อายุ 28 ปีอยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 1 ต.หนองหัววัว อ.พรานกระต่าย เป็นคนขับ เป็นเหตุให้นายจงเสียชีวิตดังกล่าว
ส่วนอุบัติเหตุอีกรายเกิดขึ้นเมื่อเวลาเกือบ 2 ทุ่มคืนที่ผ่านมา โดย พ.ต.ท.สุวิชา เตชะวรรณวุฒิ พงส.สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุบริเวณถนนสายกำแพงเพชร-พิจิตร ใกล้สี่แยกสัญญาณไฟแดง มีผู้เสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุพบนายสุรพร เกิดพรสวรรค์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 2 ต.สระแก้ว อ.เมืองกำแพงเพชร นอนจมกองเลือด สภาพกางเกงขาดรุ่ยจนเห็นบาดแผลเปิด และเนื้อขาฉีกขาด อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถานได้ช่วยปฐมพยาบาล แต่ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าของไร่อ้อย
ห่างไป 300 เมตร ใกล้กับศูนย์ตำรวจจราจร พบรถบรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 70-8163 สระบุรี มีนายสมพงษ์ บำรุงนา อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 96/3 หมู่ที่ 14 ต.หนองฉิม อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ เป็นคนขับ ที่ใต้ท้องรถมีจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซุกิ สมาร์ท สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กมร 209 กำแพงเพชร ของผู้เสียชีวิตติดอยู่
พ.ต.ท.สุวิชาเปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายสมพงษ์ คนขับรถสิบล้อให้การว่า ตนขับรถบรรทุกอาหารสัตว์มาจาก อ.พรานกระต่าย มุ่งหน้ากลับบริษัทที่สระบุรี เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นสี่แยกไฟแดง ขณะนั้นสัญญาณไฟเขียว พอถึงสี่แยกก็เปลี่ยนเป็นไฟสีส้ม ตนเองจึงรีบเร่งเพื่อให้พ้นไฟแดง ขณะเดียวกันรถจักยานยนต์ของผู้เสียชีวิตก็พุ่งออกมาจากจุดรอสัญญาณไฟ รถตนชนอย่างแรง เบื้องต้นรับทราบสารภาพตามข้อกล่าวหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต