กาญจนบุรี - พ่อวัย 62 ปี ชาวกาญจนบุรี ทนพฤติกรรมของลูกชายทรพีที่ตกเป็นทาสยาบ้าไม่ไหว ตัดสินใจยิงเสียชีวิตหลังลูกชายตัวแสบที่เป็นทาสยาบ้าตามมาราวีขอเงินไปซื้อยานรก เมื่อไม่ให้ก็จะเข้ามาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ จนครั้งล่าสุดนี้ ได้มาขอเงินอีกแต่พ่อไม่มีเงินให้ลูกชายจึงถืออาวุธมีดวิ่งเข้ามาหาหวังทำร้าย จึงยิงเสียชีวิต ก่อนรอมอบตัวตำรวจ เผยเพื่อนบ้านสุดระอาพฤติกรรมลูกชาย
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (16 ธ.ค.) พ.ต.ต.สุคนธ์ รัสเอี่ยม พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากนายเสทื้อน กลิ่นทิพย์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 3 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรีว่าตนได้ใช้อาวุธปืนยิงลูกชายเสียชีวิตอยู่ภายในโรงจอดรถหลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
ไปถึงพบ นายเสทื้อน กลิ่นทิพย์ ยืนถืออาวุธปืนลูกซองยาวเดี่ยว เบอร์ 12 รอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่อยู่ ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย นอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้นดินภายในโรงจอดรถ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวเดี่ยว เบอร์ 12 เข้าที่หน้าอกซ้าย-ขวา และตามร่างกายหลายนัด การแต่งกายนุ่งกางเกงผ้าร่มขาสั้น สวมเสื้อยืดคอปกขาวส้มทับด้วยเสื้อกันหนาวแขนยาวสีดำ ข้างศพพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กรค 665 กาญจนบุรี ล้มคว่ำอยู่ และพบอาวุธมีดปลายแหลมสภาพเก่า 3 เล่ม ตกอยู่กับพื้น
ใกล้กันมีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบอรนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บน 4746 กาญจนบุรี จอดอยู่ภายในโรงจอดรถ พบถูกยิงเข้าที่บริเวณข้างกระบะเหนือล้อขวาหลัง 7 จุด หลังจากคณะแพทย์พิสูจน์ศพเบื้องต้นแล้วเสร็จจึงนำศพไปที่ รพ.พหลฯ ทราบชื่อต่อมาคือ นายวิฑูรย์ กลิ่นทิพย์ อายุ 34 ปี ลูกชายของนายเสทื้อน ผู้ก่อเหตุ
นายเสทื้อน กลิ่นทิพย์ ให้การต่อเจ้าหน้าที่ด้วยความเศร้าใจว่า ตนมีอาชีพทำไร่ และขายไข่ตามตลาดนัดต่างๆ เพื่อหารายได้มาเลี่ยงชีพ โดยมีลูกทั้งหมด 3 คน คนโตเป็นผู้หญิง มีอาชีพเป็นข้าราชการครู สอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง คนสุดท้องเป็นผู้ชาย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับนายวิฑูรย์ ที่ถูกตนยิงเสียชีวิตเป็นลูกชายคนกลาง ไม่มีอาชีพอะไรทำ
อีกทั้งยังติดยาบ้าอย่างงอมแงม ก่อนหน้านี้ ตนกับนายวิฑูรย์ ลูกชายอาศัยอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก ทุกวันจะถูกลูกชายคนรองขอเงินเพื่อนำไปซื้อยาบ้าวันละหลายร้อยบาท และขอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อตนไม่มีให้ก็จะลงมือทำร้ายตน รวมทั้งขโมยของที่มีอยู่ไปขาย รวมทั้งไข่ที่เตรียมไปขายที่ตลาดนัดก็ถูกขโมยไปด้วย เพื่อนบ้านต่างรู้สึกเอือมระอาต่อพฤติกรรมของลูกชายเป็นอย่างมาก
ต่อมา ตนได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านของลูกสาวอยู่มาได้ประมาณ 2 ปี โดยมีลูกชายที่เป็นตำรวจคอยส่งเงินเลี้ยงดู และตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่มาอยู่บ้านลูกสาว นายวิฑูรย์ ลูกชายคนกลางก็ยังตามมาราวีขอเงินไปซื้อยาบ้าทุกวัน เมื่อตนไม่มีให้ก็จะถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บไปหลายครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อตนไม่มีเงินให้ ลูกชายจึงถืออาวุธมีดวิ่งเข้ามาหาหวังทำร้ายอีก
ด้วยความที่ตนอดทนต่อพฤติกรรมของลูกชายคนนี้ไม่ไหว จึงตัดสินใจคว้าอาวูธปืนลูกซองยาวยิงสวนไป 1 นัด จนลูกชายล้มลงเสียชีวิตทันที ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีพ่อที่ไหนจะลงมือฆ่าลูกชายตัวเอง แต่ตนทนไม่ไหวจริงๆ หลังตั้งสติได้จึงตัดสินใจโทร.แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ พร้อมกับนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ โดยไม่คิดจะหลบหนี และพร้อมที่จะถูกดำเนินคดีทุกข้อหา
ด้าน พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังก่อเหตุนายเสทื้อน ไม่ได้หลบหนีไปไหน อีกทั้งยังเป็นผู้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ และจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเกิดความโมโหที่มาขอเงินจากพ่อเพื่อนำไปซื้อยาบ้ามาเสพไม่ได้ จึงนำอาวุธมีดวิ่งเข้าไปทำร้ายพ่อ ทำให้นายเสทื้อน ทนไม่ไหววิ่งหนีเข้าไปในบ้านพักเอาอาวุธปืนออกมายิงสวนไป 1 นัดจนเสียชีวิต และหลังจากนายเสทื้อน ให้การยอมรับสารภาพ จึงคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ และจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
