ทหาร ฉก.นย.ตราด คุมเข้มยานพาหนะลงเรือส่งออกไปยังกัมพูชา หลังพบพยายามเลี่ยงภาษี

ตราด - ทหาร ฉก.นย.ตราด คุมเข้มยานพาหนะลงเรือส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา หลังพบพยายามเลี่ยงภาษี หัวหน้าหน่วยปรามปรามบอกผู้นำเข้าต้องการเลี่ยงภาษีกัมพูชา เหตุภาษีนำเข้าแพงมาก

วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมด่านศุลกากรคลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด น.อ.ปรีชา รัตนสำเนียง รอง ผบ.ฉก.นย.ตราด พร้อม ผบ.ฉก.นย.ที่ 182 บ้านหาดเล็ก ได้มีการนัดประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรคลองใหญ่ ผกก.สภ.คลองใหญ่ สารวัตรตม.คลองใหญ่ ตำรวจน้ำ และผู้ประกอบการส่งออก การนัดประชุมในหารือครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงเวลา 21.00 น. คืนวันที่ 13 ธ.ค.57 ทางทหารชุด ฉก.นย.ที่ 182 ได้นำกำลังเข้าตรวจยึดอายัดยานพาหนะรถยนต์ยี่ห้อเลกซัส สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขณะกำลังใช้เครนยกลงเรือหางยาว เพื่อเตรียมส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา ที่สะพานท่าเทียบเรือเอกชนทรัพย์ชโลทร

ในขณะที่ทหารเข้าตรวจสอบ ทางผู้ประกอบการส่งออกก็ได้นำเอกสารขั้นตอนการขออนุญาตเสียภาษีอย่างถูกต้องจากด่านศุลกากรคลองใหญ่มาแสดง แต่ทางทหารนั้นยังไม่มั่นใจจึงได้ขออายัดรถคันดังกล่าวไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้แล้ว ทหารยังได้ขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานรถยนต์เลกซัส สภาพใหม่อีกจำนวน 3 คัน ที่จอดรออยู่ที่ด่านศุลกากรคลองใหญ่ เตรียมรอคิวลงเรือหางยาวเพื่อส่งไปยังประเทศกัมพูชา

หลังจบการประชุม น.อ.ปรีชา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเอกสารทั้งหมดเบื้องต้นพบว่า รถยนต์เลกซัส ที่กำลังจะส่งออกไปยังประเทศกัมพูชาทั้งหมด 4 คันนั้น ได้ผ่านการเสียภาษีอย่างถูกต้องจากด่านศุลกากรคลองใหญ่เรียบร้อยแล้ว แต่ทางทหารได้ตั้งข้อสังเกตก็คือ 1.เหตุใดถึงต้องดำเนินการนำสินค้าลงเรือช่วงกลางคืน 2.ยานพาหนะสำหรับใช้บรรทุกรถยนต์ดังกล่าวก็เป็นเรือยนต์หางยาวดัดแปลงของประเทศกัมพูชาขนาด 3X5 เมตร ไม่มีทะเบียนควบคุมเรือ

จากข้อมูลของทหารยังทราบว่า วิธีการขนส่งสินค้าทางเรือลักษณะดังกล่าวน่าจะเป็นการหลบเลี่ยงภาษีของเจ้าหน้าฝ่ายกัมพูชา ซึ่งในเบื้องต้น ทางทหารได้ขอให้มีการทำเอกสารให้ถูกต้องครบถ้วน และในโอกาสต่อไปถ้าหากจะมีการนำสินค้าลงเรือ ประเภทก๊าซหุงต้ม รถยนต์ จักรยานยนต์ส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา จะทำได้เฉพาะช่วงกลางวันเท่านั้น ตั้งแต่ 6 โมงเช้า-6 โมงเย็น ทางทหารจะร่วมตรวจสอบสินค้าดังกล่าวทุกครั้ง ยกเว้นสินค้าประเภทอื่นๆ

ด้าน นายเบญจรงค์ วาสะสิริ หัวหน้าฝ่ายปราบปรามศุลกากรคลองใหญ่ ได้กล่าวว่า สินค้าส่งออกประเภทรถยนต์ดังกล่าวได้ผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่แล้วโดยมี น.ส.มาลี พิกุลสุข ผู้ประกอบการนำสินค้าส่งออกในนาม หจก.มาลีชิปปิ้ง แอนด์ เซอร์วิส อ.คลองใหญ่ ได้ขออนุญาตทุกขั้นตอน และระบุเวลาการนำสินค้าลงเรืออย่างถูกต้องที่ต้องทำกลางคืน เพราะผู้ประกอบการได้ให้เหตุผลว่า กลางวันจะมียานพาหนะเข้า-ออก บนสะพานจะเกิดการกีดขวางไม่สะดวก ที่ต้องใช้เรือหางยาวดังกล่าวบรรทุกไปเป็นความต้องการของเอเยนต์ผู้ประกอบการชาวกัมพูชา เพื่อหลีกเลี่ยงด้านภาษี เพราะภาษีกัมพูชานั้นแพงมาก และยังไม่มีระบบจัดเก็บที่ชัดเจน

ส่วนขั้นตอนอื่นๆ ของเจ้าหน้าที่กัมพูชานั้น ตนเองไม่ทราบข้อมูล เพราะมีหน้าที่บริการอำนวยความสะดวกตามขั้นตอนด้านศุลกากรฝ่ายไทยเท่านั้น ข้อสรุปในที่ประชุม ทางทหารได้ขอให้ทางศุลกากรคลองใหญ่ และผู้ประกอบการได้มีการแจ้งทุกครั้งก่อนที่จะนำสินค้าประเภทยานพาหนะลงเรือ พร้อมกับกล่าวว่า ที่ทหารต้องเข้มงวดตรวจสอบเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ก็เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงระหว่างประเทศ และเป็นการยืนยันว่าทหารไม่ได้มีส่วนรู้เห็น