สศช.เตรียมทบทวนภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 57 ใหม่ โดยมีแนวโน้มปรับอัตราการขยายตัวดีขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะโตร้อยละ 1.5 ถึง 2.5 ซึ่งหากภาพรวมการส่งออกครึ่งปีคาดว่ามีแนวโน้มดีขึ้น และหากมีการขยายตัวได้ที่ระดับร้อยละ 6-7 จะหนุนให้อัตราการขยายตัวของประเทศมีโอกาสปรับขึ้นได้ร้อยละ 3
นายปรเมธี วิมลศิริ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังปี 2557 โดยระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้น
ดั้งนั้น สศช.เตรียมที่จะประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยใหม่อีกครั้งในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ใหม่ จากที่ สศช.ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้ไว้ ในช่วงก่อนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเข้าบริหารประเทศ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2557 ว่า จะขยายตัวร้อยละ 1.5 ถึง 2.5 แต่ตอนนี้หากภาพรวมการส่งออกครึ่งปีคาดว่ามีแนวโน้มดีขึ้น และหากมีการขยายตัวได้ที่ระดับร้อยละ 6-7 จะหนุนให้อัตราการขยายตัวของประเทศมีโอกาสปรับขึ้นได้ร้อยละ 3
สศช.ระบุว่า ช่วงครึ่งปีหลังต้องจับตาการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นได้ไม่เร็วเท่ากับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว อีกทั้งระดับราคาขายในรูปสกุลเงินต่างประเทศยังไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากขีดความสามารถในการแข่งขัน หรือตัวสินค้ามีปัญหา หากเกิดจากสาเหตุนี้จะเป็นปัญหาระยะยาวของโครงสร้างเศรษฐกิจที่จะต้องแก้ไขต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังมีตัวช่วยที่ถือเป็นโชคดีของเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้คือ ปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยนที่เงินบาทอ่อนค่าลง ช่วยให้ผู้ส่งออกแม้มีรายได้ในรูปเงินดอลลาร์ไม่เพิ่มขึ้น แต่เมื่อแปลงมาเป็นเงินบาทมีรายได้เพิ่มขึ้น
ส่วนสินค้าส่งออกที่กระทบจากการตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) นั้น คาดว่าผู้ประกอบการได้ปรับตัวแล้ว และการส่งออกก็ยังคงทำได้ แต่ย่อมได้รับผลกระทบแต่ไม่มากนัก โดยปี 2558 คาดว่ากระทบในส่วนสินค้าส่งออกไปยุโรปประมาณ 9,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากยอดส่งออกไปยุโรปรวม 22,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ในปี 2556 สินค้าส่งออกที่ใช้สิทธิจีเอสพี มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 35.4 ของการส่งออกทั้งหมด ขณะที่ปี 2557 มีสินค้าที่ถูกยกเลิกจีเอสพี เพิ่ม 50 รายการ และในปี 2558 สินค้าที่เหลืออีก 723 รายการ จะถูกตัดจีเอสพี ได้แก่ รถบัสและรถบรรทุก เลนส์ที่ททำด้วยวัสดุอื่นๆ (พลาสติก) เครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่าง ถุงมือยาง กุ้งแปรรูป และรถจักรยานยนต์ โดยสินค้าที่อาจได้รับผลกระทบอาจได้รับผลกระทบจากสหภาพยุโรปเป็นตลาดส่งออกหลักได้แก่ เลนส์ที่ทำด้วยวัสดุอื่นๆ มีสัดส่วนร้อยละ 45.8 ของการส่งออกเลนส์ทั้งหมด และรถจักรยานยนต์มีสัดส่วนร้อยละ 41.4 ของการส่งออกรถจักรยานยนต์ทั้งหมด
